xs
xsm
sm
md
lg

“อินเจ็คเท็ด” ปูพรมเซาท์อีสต์เอเชีย ลุยตลาดรองเท้าแฟชั่น “เจลลี่ บันนี่”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุวิตา จันทร์ศรีชวาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเจ็คเท็ด รีพับลิค จำกัด
ASTVผู้จัดการรายวัน - “อินเจ็คเท็ด” ปลื้มรองเท้า “เจลลี่ บันนี่” ติดลมบน หลังทำตลาดรองเท้าแฟชั่นเพียง 2 ปี ลุยขยายทั้งไทยและต่างประเทศ หวังปูพรมสาขาครบ 10 ประเทศ เซาท์อีสต์เอเชีย เป้าระยะยาว 2,500 ล้านบาท

นางสาวสุวิตา จันทร์ศรีชวาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเจ็คเท็ด รีพับลิค จำกัด เจ้าของแบรนด์และผู้จัดจำหน่ายรองเท้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์แบรนด์ “เจลลี่ บันนี่” (Jelly Bunny) ของไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้สร้างแบรนด์และทำตลาดรองเท้าสไตล์แฟชั่นนี้มาประมาณ 2 ปีแล้ว โดยเป็นแบรนด์ของบริษทฯ เอง แต่ว่าจ้างโรงงานอื่นผลิตให้ทั้งในไทยและต่างประเทศที่บราซิล ซึ่งที่ผ่านมาประสบความสำเร็จอย่างดี มีสาขาทั้งในไทยและต่างประเทศแล้ว ทำให้บริษัทฯ มีเป้าหมายระยะยาวที่จะขยายตลาดมากขึ้นทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะในเอเชียแปซิฟิกนี้ โดยปีนี้จะใช้งบลทุนรวมทั้งการขยายสาขาและการตลาดประมาณ 30% ของยอดขาย

ทั้งนี้ วางเป้าหมายระยะยาว 5 ปีจากนี้จะมีรายได้รวม 2,000-2,500 ล้านบาท จากแบรนด์นี้แบรนด์เดียว แต่อาจจะมีการขยายไลน์สินค้าเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีรองเท้าสัดส่วน 70% ที่เหลือเป็นกระเป๋า เข็มขัด และอื่นๆ ขณะที่ปีที่แล้วมีรายได้รวม 280 ล้านบาท สัดส่วนยอดขายมาจากในไทย 50% ต่างประเทศ 50% จากก่อนหน้านี้ไทย 70% ต่างประเทศ 30% ส่วนปีนี้ตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 600 ล้านบาท
รูปแบบของรองเท้าเจลลี่ บันนี่
ส่วนแผนงานในประเทศขณะนี้คือ ปีนี้จะเปิดร้านแบบสแตนด์อะโลนชอปอีก 2 สาขาคือที่ เซ็นทรัลอุดรธานี ภายในเดือนกันยายน ศกนี้ ส่วนอีกสาขายังไม่สรุปโดยคาดว่าอาจจะเป็นที่เทอร์มินัล 21 อโศก จากปัจจุบันในไทยมีสาขาจำนวนรวม 30 สาขา แบ่งเป็น สแตนด์อะโลน 14 สาขา ล่าสุดเปิดที่แฟชั่นไอส์แลนด์ ป็อปอัพ 5 สาขา และแบบคอนไซน์เมนต์ในห้างสรรพสินค้า 11 สาขา โดยลงทุนแบบสแตนด์อะโลนชอปประมาณ 10 ล้านบาทต่อสาขา พื้นที่เฉลี่ย 70 ตารงเมตร

นอกจากนั้น ปีนี้บริษัทฯ จะสามารถขยายช่องทางจำหน่ายสู่ระบบออนไลน์ด้วย คาดว่าจะเริ่มได้ประมาณปลายปีนี้ ซึ่งจะทำให้ยอดขายเติบโตอีกช่องทางหนึ่งด้วย

ขณะที่ในต่างประเทศนั้น ช่วง 2-3 ปีนี้จะมีการขยายสาขามากขึ้นเพราะได้รับการตอบรับอย่างดี โดยจะเน้นการลงทุนเอง แต่หากมีผู้สนใจก็จะขายแฟรนไชส์ แบ่งเป็นในประเทศสิงคโปร์ปีนี้เตรียมจะเปิดสาขาแรกที่ห้างสรรพสินค้าสิงหะปุราพลาซ่า และยังอยู่ระหว่างการเจรจากับ 2 ห้างใหญ่คือ ไอออน และห้างอีโว่ โดยมีเป้าหมายเปิดให้ครบ 6 สาขาในสิงคโปร์ภายในปี 2558 ส่วนในประเทศมาเลเซียจะขยายเพิ่มอีกให้เป็น 12 สาขาภายในปี 2558 จากเดิมมีแล้ว 6 สาขา นอกจากนี้ยังมีสาขาอยู่ในประเทศบรูไนและฟิลิปปินส์ด้วย โดยตั้งเป้าหมายที่จะเปิดสาขาให้ครบ 10 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สำหรับกลุ่มลูกค้าของรองเท้า “เจลลี่ บันนี่” เน้นผู้หญิงกลุ่มนักศึกษาและวัยทำงาน อายุ 17-28 ปี และเด็กผู้หญิง อายุตั้งแต่ 4-12 ปี ราคาสินค้าแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มนำเข้ามาจากโรงงานที่เราว่าจ้างให้ทำการผลิตเช่นจากบราซิลและอื่นๆ ราคาประมาณ 990-3,590 บาท และรองเท้าที่ผลิตในไทยโดยว่าจ้างโออีเอ็ม ราคาประมาณ 399-2,490 บาท อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีการจัดทำโปรโมชันเพื่อกระตุ้นการซื้อท่ามกลางปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจในเวลานี้คือการลดราคา 25% ฉลองการเปิดสาขาใหม่ที่สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์

ทั้งนี้ แบรนด์ “เจลลี่ บันนี่” เป็นสินค้าที่เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ผู้หญิง ทั้งรองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับ นาฬิกา ร่ม เคสโทรศัพท์มือถือ ไอแพด อุปกรณ์ไลฟ์สไตล์ต่างๆ ที่ใช้วัสดุพลาสติกต่างๆ เน้นพีวีซี อีวีเอ และซิลิโคน เป็นต้น มาใช้ในการผลิต โดยได้รับแรงบันดาลใจจากสีสันและลูกอมเยลลี ทำให้สินค้ามีสีสัน สวยงาม และมีกลิ่นของวานิลลาอยู่ในตัวด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น