กรมการขนส่งฯ เผย 11 พ.ค.ดีเดย์บังคับใช้กฎกระทรวงคาดเข็มขัดนิรภัยบนรถโดยสารทุกที่นั่ง เจอฝ่าฝืนผู้โดยสารถูกปรับ 5,000 บาท เจ้าของรถไม่ติดตั้งอุปกรณ์โดนปรับหนัก 50,000 บาท เร่งรณรงค์และประชาสัมพันธ์ หลังสุ่มตรวจพบยังมีรถไม่ติดตั้งเข็มขัดนิรภัย
นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ตามที่กรมการขนส่งทางบกได้เสนอกระทรวงคมนาคมออกกฎกระทรวงกำหนดความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยที่ผู้โดยสารต้องปฏิบัติในระหว่างการโดยสาร พ.ศ. 2557 กำหนดให้ผู้โดยสารรถสาธารณะจะต้องคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดเวลาที่อยู่ระหว่างการโดยสาร โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป หากตรวจพบฝ่าฝืนมีความผิด โดยผู้ประกอบการที่ไม่ติดตั้งอุปกรณ์ต้องระวางโทษปรับ 50,000 บาทต่อครั้ง ผู้โดยสารไม่คาดเข็มขัดนิรภัยปรับ 5,000 บาท เพื่อให้สามารถกำกับดูแลให้ผู้โดยสารจะต้องคาดเข็มขัดนิรภัยเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ รวมทั้งให้ผู้ประกอบการขนส่งและพนักงานขับรถกำกับดูแลให้ผู้โดยสารปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ กรมการขนส่งฯ ได้กำหนดให้รถโดยสารสาธารณะทุกคันต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่งตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจถึงประโยชน์ของการใช้เข็มขัดนิรภัยมาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังพบว่าประชาชนบางส่วนไม่นิยมคาดเข็มขัดนิรภัยเนื่องจากไม่ได้รับความสะดวกสบายเมื่อคาดเข็มขัดนิรภัย โดยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาสุ่มตรวจพบรถตู้และรถโดยสารไม่ติดตั้งเข็มขัดนิรภัยประมาณ 200 ราย ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องนำรถเข้าตรวจสภาพใหม่ ซึ่งกรมการขนส่งฯ จะจัดเจ้าหน้าที่ออกสุ่มตรวจตลอดเวลา หากพบรายใดผิดซ้ำซากจะพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตต่อไป
โดยเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมได้มีการรณรงค์ส่งเสริมการคาดเข็มขัดนิรภัยในรถโดยสารสาธารณะ ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (หมอชิตใหม่) เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการส่งเสริมความปลอดภัยในการเดินทาง พร้อมแจ้งให้ผู้ประกอบการขนส่งทั่วประเทศประชาสัมพันธ์แนะนำก่อนรถออก หรือติดสติกเกอร์ประชาสัมพันธ์ในรถโดยสารสาธารณะทุกประเภทด้วย ซึ่งจากผลการวิจัยระบุว่าผู้ที่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัยมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์มากกว่าผู้ที่คาดเข็มขัดนิรภัยถึง 1.52 เท่า และพบว่าในจำนวน 100 รายที่เกิดอุบัติเหตุมีผู้รอดชีวิตเพราะคาดเข็มขัดนิรภัยถึง 34 ราย