ผู้ปกครองเบาใจ! ปีนี้ชุดนักเรียนไม่ขึ้น “พาณิชย์” เตรียมนัดผู้ผลิต ถกวางเกณฑ์ลดไซส์สินค้า

“พาณิชย์” ตรวจราคาชุดนักเรียนไม่พบการขึ้นราคา แม้ต้นทุนของผู้ผลิตสูงขึ้น เหตุมีการแข่งขันสูง เศรษฐกิจไม่ดี และกำลังซื้อหด เตรียมเรียกผู้ผลิตหารือกำหนดมาตรฐานขนาดสินค้าสัปดาห์หน้า ป้องกันการขึ้นราคาทางอ้อมเอาเปรียบผู้บริโภค พร้อมปรับราคาแนะนำอาหารจานด่วนใหม่เป็น 30-35 บาทตามต้นทุนที่สูงขึ้น

นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการตรวจราคาสินค้าชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียน ที่ห้างเทสโก้ โลตัส สาขารัตนาธิเบศร์ วันนี้ (17 เม.ย.) ว่า ขณะนี้สถานการณ์ด้านราคายังเป็นปกติ ราคาจำหน่ายส่วนใหญ่เท่ากับปีที่แล้ว ไม่มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น แม้ว่าผู้ประกอบการหลายรายมีต้นทุนในการผลิตสูงขึ้น แต่ก็ได้แบกรับภาระเอาไว้ เนื่องจากปีนี้เศรษฐกิจชะลอตัว และยังมีการแข่งขันกันรุนแรงระหว่างผู้ผลิตด้วยกันเอง ขอให้ผู้ปกครองเบาใจได้”

ทั้งนี้ ราคาจำหน่ายเครื่องแบบนักเรียนในร้านค้าทั่วไปพบว่า ระดับอนุบาล เสื้อเบอร์ 30 ตราที่ได้รับความนิยม ได้แก่ สมอ น้อมจิตต์ สมใจนึก และแมมมอธ ราคา 135-175 บาท และตราทั่วไป คือ ตราจุฬา และตลาดโบ๊เบ๊ ราคา 90-100 บาท กางเกง เบอร์ 4 M (รอบเอว 23 นิ้ว) และกระโปรง เบอร์ M ตราที่ได้รับความนิยม ราคา 145-205 บาท ตราทั่วไป ราคา 100-110 บาท

ระดับประถม-มัธยม เสื้อเชิ้ตนักเรียนชาย เบอร์ 34 ตราที่ได้รับความนิยม ราคา 182-205 บาท ตราทั่วไป ราคา 140-150 บาท เสื้อประถมหญิง คอบัวผ่าตลอด เบอร์ 34 ตราที่ได้รับความนิยม ราคา 177-195 บาท ตราทั่วไป ราคา 130-140 บาท กางเกงนักเรียนชาย เบอร์ 15 (รอบเอว 27-29 นิ้ว) ตราที่ได้รับความนิยม ราคา 220-245 บาท ตราทั่วไป ราคา 160-170 บาท กระโปรง 6 จีบ รอบตัว เบอร์ 20 (รอบเอว 22-23 นิ้ว) ตราที่ได้รับความนิยม ราคา 225-265 บาท ตราทั่วไป ราคา 150-160 บาท

นายสันติชัยกล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค กรมฯ ได้มีการติดตามอย่างใกล้ชิด โดยในปัจจุบันพบว่ามีผู้ประกอบการบางราย โดยเฉพาะสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น สบู่ ผงซักฟอก แชมพู ได้ใช้วิธีการลดขนาดสินค้าเพื่อหลีกเลี่ยงการขึ้นราคา แต่ถือเป็นการปรับราคาทางอ้อมเพราะผู้บริโภคได้สินค้าในปริมาณที่ลดลงแต่ราคายังคงเดิม ซึ่งกรมฯ จะเชิญผู้ผลิตสินค้ากลุ่มนี้ รวมถึงห้างค้าปลีกที่ผลิตสินค้ากลุ่มดังกล่าวมาหารือในสัปดาห์หน้า โดยจะให้มีการกำหนดมาตรฐานขนาดสินค้าให้เท่ากัน

นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้พิจารณาปรับราคาแนะนำอาหารปรุงสำเร็จ (จานด่วน) เนื่องจากเห็นว่าต้นทุนในการผลิตต่างๆ ได้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยราคาที่เหมาะสมในปัจจุบันอยู่ที่ราคาเมนูละ 30-35 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สอดคล้องกับต้นทุนในขณะนี้