“เทสโก้” รุกตลาดเฮาส์แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้า ปั้นแบรนด์ใหม่ “ไฮยาซอง” วางตลาดไทยที่แรกของโลก ดัมป์ราคาต่ำกว่าอินเตอร์แบรนด์ 15% ประเดิมทีวี เครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็ก แกดเจ็ต มั่นใจ 3 ปีแรกแชร์ 10% จากตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า
นายจักรกฤษณ์ จตุปัญญาโชติกุล ผู้จัดการอาวุโสและหัวหน้าส่วนงานบริหารแบรนด์และสื่อสารการตลาด “เทสโก้ โลตัส” บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเท็ม จำกัด เปิดเผยว่า กลุ่มเทสโก้ที่อังกฤษตัดสินใจเลือกไทยเป็นประเทศแรกในโลกที่เปิดตัวเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ใหม่ของเทสโก้เองชื่อว่า “ไฮยาซอง” (HYASONG) ซึ่งเป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่างทีมในเอเชียกับยุโรป เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจและตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าก็มีการเติบโตดี ด้วยมูลค่ามากกว่า 1 แสนล้านบาท จึงคาดว่าน่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคเมืองไทย ก่อนที่จะเปิดตัวในประเทศอื่นในเอเชียเป็นลำดับต่อไป
“สินค้าแบรนด์ไฮยาซองเป็นเฮาส์แบรนด์ของเทสโก้ โดยนำชิ้นส่วนจากต่างประเทศที่มาจากโรงงานของอินเตอร์แบรนด์ทั้งหลายทั้งจากจีน ญี่ปุ่น เกาหลี แล้วนำเข้ามาประกอบในโรงงานไทยของพันธมิตร จึงทำให้ราคาค่อนข้างต่ำกว่าอินเตอร์แบรนด์ประมาณ 10-15% เพราะต้นทุนต่ำกว่าแต่คุณภาพระดับเดียวกัน และจะวางจำหน่ายเฉพาะในเครือข่ายเทสโก้โลตัสเท่านั้น เริ่มที่ไฮเปอร์มาร์เกตก่อน ส่วนโมเดลอื่นอยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสม” นายจักรกฤษณ์กล่าว
ทั้งนี้ กลุ่มสินค้า 3 กลุ่มแรกที่เริ่มทำตลาดและวางจำหน่ายแล้วเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาในไทย คือ 1.ทีวี 2.เครื่องใช้ไฟ้ฟาในบ้านขนาดเล็ก เช่น เครื่องชงกาแฟ เครื่องดูดฝุ่น เครื่องปิ้งขนมปัง เป็นต้น และ 3.แกดเจ็ตอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ เป็นต้น ก่อนที่จะทยอยนำสินค้ากลุ่มอื่นมาทำตลาดต่อไป โดยไฮยาซองนี้ก็จะมีความแตกต่างจากเฮาส์แบรนด์เทสโก้ที่มีอยู่เดิมด้วย
สินค้าทีวีจะเป็นเรือธง เนื่องจากว่าปีนี้มีฟุตบอลโลกและโครงการทีวีดิจิตอลเกิดขึ้น จะเป็นแรงผลักดันให้ตลาดเครื่องรับโทรทัศน์เติบโตขึ้นด้วย โดยช่วงแรกมีทีวี 3 รุ่น คือ แอลอีดีขนาดใหญ่ 42 นิ้ว ราคา 20,990 บาท ขนาด 47 นิ้ว ราคา 27,990 บาท และขนาด 55 นิ้ว ราคา 32,990 บาท รับประกัน 3 ปี โดยมีคู่ค้าเป็นผู้รับผิดชอบบริการหลังการขาย โดยได้จัดโปรโมชัน วันที่ 27 มีนาคม-23 เมษายน ผ่อน 0% นาน 10 เดือน ผ่านบัตรเทสโก้วีซ่า และเทสโก้พรีเมียร์ เฟิร์สทชอยส์ และอิออน หรือแลกซื้อเครื่องเล่นบลูเรย์ 3 มิติทุกยี่ห้อลด 2,000 บาท ซึ่งปีแรกจะใช้งบตลาดรวม 100 ล้านบาท คาดหวังภายใน 3 ปีจากนี้จะมีส่วนแบ่งทีวี 10% จากตลาดรวมทีวีประมาณ 30,000 ล้านบาท ซึ่งตลาดรวมเติบโต 10%