“คราวน์ เทค แอดวานซ์” สั่งจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.10 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD 8 พ.ค. กำหนดจ่ายวันที่ 28 พ.ค.นี้ หลังรอบปี 2556 กำไรสุทธิสวยเจิด 68.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 122.26% เหตุสามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนปีนี้วางเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% เตรียมคลอดสินค้าใหม่รองรับทีวีดิตอล
นายอมร มีมะโน กรรมการผู้จัดการ บริษัท คราวน์ เทค แอดวานซ์ จำกัด (มหาชน) (AJD) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมในปี 2557 ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อน เนื่องจากเป็นไปตามการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ประกอบกับ บริษัทเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ภายในไตรมาส 2/2557 เพื่อรองรับระบบทีวีดิจิตอล ซึ่งเป็นกล่องแปลงสัญญาณจากอะนาล็อกเป็นดิจิตอล เช่น Set Top Box, Smart Set Top Box, DVD Set Top Box และ Digital TV เป็นต้น จึงทำให้มีโอกาสในการขยายตัวทางธุรกิจอีกมาก
ส่วนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทวางแผนที่จะขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้น โดยจะเพิ่มชนิดสินค้าในโมเดิร์นเทรด และเพิ่มตัวแทนจำหน่ายซึ่งเป็นร้านค้าขนาดใหญ่ในแต่ละจังหวัด อีกทั้งจะมุ่งเน้นทำการตลาดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดเครื่องเล่นคาราโอเกะ ซึ่งปัจจุบันสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ของเครื่องเล่นดีวีดี
ทั้งนี้ สำหรับสัดส่วนรายได้ของ AJD มาจาก 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทภาพและเสียง (Audio and Visual : AV) เช่น เครื่องเล่นดีวีดี และเครื่องเล่นดีวีดีบลูเรย์ ชุดโฮมเธียเตอร์ วิทยุ เครื่องเล่นคาราโอเกะ สัดส่วนประมาณ 70% และกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทเครื่องใช้ในครัวเรือน (Home Appliance : AP) เช่น แอร์เคลื่อนที่ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า กระติกน้ำร้อนไฟฟ้า เตาแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นต้น สัดส่วนประมาณ 30%
“ในปีนี้คาดว่าผลประกอบการจะมีอัตราการขยายตัวที่สูงเช่นกัน ซึ่งมาจากการขยาย 2 ส่วนที่สำคัญคือ การเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ และการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่ไม่ยากสำหรับการเดินทางสู่เป้าหมายที่ตั้งเอาไว้”
นายอมร กล่าวต่อว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย (XD) ผู้ซื้อไม่ได้รับสิทธิปันผลในวันที่ 8 พ.ค.2557 และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 28 พ.ค.2557 ภายหลังจากที่ได้ประกาศผลประกอบการของรอบปี 2556 ซึ่งมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 68.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.57 ล้านบาท หรือ 122.26% จากปี 2555 ที่มีกำไรสุทธิ 30.73 ล้านบาท โดยสาเหตุการเติบโตเป็นเพราะบริษัทได้มีการลงทุน และปรับปรุงพัฒนาในหลายๆ ด้าน เช่น การปรับปรุงระบบการจัดเก็บสินค้าในคลัง เปลี่ยนแปลงระบบซอฟต์แวร์ในการบริหารจัดการธุรกิจให้ครอบคลุม รวมถึงปรับปรุงกลยุทธ์ในการขาย และการบริหารจัดการภายในองค์กร ทำให้บริษัทสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิในปี 2556 อยู่ที่ 4.13% เพิ่มขึ้น จากปี 2555 ที่มีอัตรากำไร สุทธิ 1.75%