ผู้ประกอบการเหมืองหินยอดขายดิ่ง เริ่มลดกำลังการผลิต 10-20% แล้วเหตุการก่อสร้างทั้งรัฐและเอกชนเริ่มไม่ขยับจากแรงซื้อคนไทยถดถอย ชาวนาไร้เงินจำนำข้าว ขยายลงทุนต่อชะงักหลัง 2 ล้านล้านบาทเดี้ยง หนุนปฏิรูปการออกอาชญาบัตร ประทานบัตรโปร่งใส รวดเร็ว ปลอดการเมือง
นายฉดับ ปัทมสูต ประธานกรรมการสภาการเหมืองแร่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการเหมืองหินมียอดขายลดลง 20% ทำให้ผู้ประกอบการเริ่มลดกำลังผลิตเนื่องจากได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างภาคอสังหาริมทรัพย์และการลงทุนของรัฐที่ลดลง นอกจากนี้ผู้ประกอบการที่มีแผนจะขยายการลงทุนเหมืองหินเพื่อรองรับโครงการ 2 ล้านล้านบาทของรัฐบาลที่ผ่านมาก็ต้องชะลอการลงทุนทั้งหมดเพื่อรอดูความชัดเจนนโยบายการลงทุนจากรัฐบาลใหม่อีกครั้ง
“เหมืองหินที่ส่วนใหญ่ใช้ในการก่อสร้างเริ่มมีสัญญาณไม่ดีนักเพราะเวลานี้โครงการอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวลงทั้งบ้าน และคอนโดมิเนียม ถนนต่างๆ แถมการลงทุนจากภาครัฐก็แทบจะไม่มี บางรายมองที่จะหาแหล่งหินเพิ่มไว้เพราะต้องอาศัยเวลาพัฒนา แต่พอโครงการ 2 ล้านล้านบาทขัดต่อรัฐธรรมนูญทำให้ผู้ประกอบการเดิมที่คาดหวังว่าเหมืองหินน่าจะเติบโตก็คงต้องชะลอออกไป” นายฉดับกล่าว
ทั้งนี้ ปัญหาการเมืองที่ยืดเยื้อขณะนี้สภาฯ เองก็กังวลว่าจะกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมซึ่งคงจะต้องติดตามใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม ส่วนของเหมืองแร่นั้นหากรัฐบาลใหม่มาไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนเชื่อว่าจะต้องมีการปฏิรูปในหลายๆ ด้าน และสิ่งหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับสภาฯ คือการปฏิรูประบบการออกอาชญาบัตรและประทานบัตรสำรวจแร่ที่โปร่งใสและรวดเร็ว เนื่องจากจะเห็นว่าในปี 2555 นั้นการออกประทานบัตรและอาชญาบัตรแร่มีออกมาเพียง 10 กว่าแปลง แต่ปี 2556 กลับมีออกมาถึงเกือบ 100 แปลงทั้งที่อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.แร่เดียวกันและเป็นช่วงรัฐบาล “ทักษิณ” เหมือนกัน
นายศิรสิทธิ์ สืบศิริ กรรมการสภาฯ และผู้ประกอบการเหมืองหิน กล่าวยอมรับว่า ขณะนี้ตลาดเหมืองหินเริ่มขยายตัวลดลงจากปกติทำให้ผู้ประกอบการลดกำลังการผลิตแล้วไม่น้อยกว่า 10-20% และอาจเพิ่มขึ้นหากการเมืองยังไม่ชัดเจน ซึ่งไม่เพียงเฉพาะการก่อสร้างหมู่บ้าน คอนโดมิเนียม ส่วนหนึ่งยังพบว่ากลุ่มเกษตรกรชาวนาที่เป็นแรงซื้ออีกส่วนหนึ่งเมื่อไม่ได้รับเงินจำนำข้าวก็ไม่มีการซ่อมแซมหรือปลูกบ้านใหม่ซึ่งหินก่อสร้างบางส่วนจะผลิตอิฐบล็อก
นายดิเรก รัตนวิชช์ กรรมการสภาฯ กล่าวว่า เหมืองหินสัญญาณไม่ดีนัก ปกติแม้การก่อสร้างทรงๆ ตัวก็ยังเติบโตแต่ขณะนี้ยอดขายเริ่มลดลง ซึ่งหากปัญหาการเมืองไทยยืดเยื้อก็อาจจะทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยลำบากได้ ส่วนภาพรวมการให้อาชญาบัตรขณะนี้ยอมรับว่ามีความล่าช้าเนื่องจากกระทรวงอุตสาหกรรมต้องปิดดำเนินงานจากกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. ทำให้ขั้นตอนเรื่องเอกสารต่างๆ ไม่คล่องตัว
แหล่งข่าวจากสภาการเหมืองแร่กล่าวว่า ต้องการให้มีการปฏิรูประบบการออกอาชญาบัตรและประทานบัตรใหม่ที่ลดขั้นตอนการพิจารณาจากฝ่ายการเมือง เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทำให้เกิดการวิ่งเต้น และไม่เพียงแต่เฉพาะอุตสาหกรรมนี้เท่านั้น ปัจจุบันระบบราชการทั้งระบบจะว่าด้วยเรื่องเงินใต้โต๊ะ การคอร์รัปชันมีให้เห็นโจ๋งครึ่มเพราะผู้มีอำนาจตั้งแต่อธิบดียันลูกน้องจะขยับตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งเล็กใหญ่ล้วนต้องจ่ายเงินทำให้คนเหล่านี้ต้องมาหากินกับเงินใต้โต๊ะอีกทอดหนึ่ง หากประเทศไทยไม่เกิดการปฏิรูปทั้งการศึกษา การเมือง ราชการ เชื่อว่าที่สุดประเทศไทยจะวิกฤตในไม่ช้า