ชุมพร - จับหนุ่มบริษัทขายนม ขโมยโมเด็มเครื่องรับส่งสัญญาณไวร์เลสขึ้นรถเก๋งเตรียมหลบหนี เจ้าของหอพักเห็นรวบตัวไว้ได้ทันควันแจ้งตำรวจจับดำเนินคดี
เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 24 มิถุนายน 2556 ร.ต.ท.สุรพงษ์ ทองสง่า รอง สวป.สภ.เมืองชุมพร ขณะขับรถยนต์สายตรวจออกปฏิบัติหน้าที่ ได้รับแจ้งจาก นายศิรสิทธิ์ ฉายานันตพงศ์ อายุ 48 ปี เจ้าของหอพักเลขที่ 36/35 ซอยเมืองชุมพร 28 (เพชรจรัสเก่า) ต.ท่าตะเภา อ.เมือง จ.ชุมพร ว่าได้ควบคุมตัวคนร้ายลักทรัพย์สินภายในหอพักขณะกำลังจะหลบหนีไว้ได้ จึงนำกำลังไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นหอพักรวม ตำรวจพบกับ นายศิรสิทธิ์ เจ้าของหอพักซึ่งได้ควบคุมตัว นายสันติ คงคาไหว อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91/1 หมู่ 2 ต.อ่าวใหญ่ อ.เมือง จ.ชุมพร เป็นพนักงานขายนมของบริษัทแห่งหนึ่ง พร้อมรถเก๋งยีห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีบรอนซ์ ทะเบียน กง 3991 ชุมพร และมีเพื่อนชายหญิงอีก 2 คนยืนอยู่ด้วย พร้อมของกลางโมเด็มส่งสัญญาณไวร์เลสอินเทอร์เน็ต ใส่ถุงพลาสติดซุกอยู่ในกระโปรงท้ายรถเก๋ง ที่นายสันติ ขโมยออกมาจากหอพัก
จากการสอบสวน นายศิรสิทธิ์ ฉายานันตพงศ์ เจ้าของหอพักให้การว่า ขณะที่ตนกำลังนั่งอยู่ที่ร้านอาหารข้างหอพักซึ่งเป็นร้านของตนเอง และนั่งดูจอคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ภายในหอพักเพื่อดูความเคลื่อนไหวต่างๆ ปรากฏว่า ได้เห็น นายสันติ ซึ่งเป็นผู้เช่าห้องอาศัยอยู่ภายในหอดังกล่าว กำลังดึงกล่องโมเด็มรับส่งสัญญาณไวร์เลสที่ตั้งอยู่บนเคาน์เตอร์ชั้น 2 ออกมา ทำให้ไวร์เลสที่ตนกำลังดูภาพจากกล้องวงจรปิดดับลงทันที ตนรีบจึงขับรถ จยย. ออกมาจากร้านอาหารแล้วจอดทางเข้าออกหอพัก ขณะที่นายสันติ นั่งอยู่ในรถเก๋งคันดังกล่าว โดยมีเพื่อนของนายสันติกำลังจะขับรถเก๋งออกมา
นายศิรสิทธิ์ ให้การต่อว่า เมื่อตนเดินไปสอบถามนายสันติ ว่า ขโมยโมเด็มอินเทอร์เน็ตไปทำไม นายสันติ กลับไม่ยอมรับ เมื่อตนค้นที่กระโปรงท้ายรถพบโมเด็มใส่อยู่ในถุงพลาสติกซุกอยู่ และแจ้งตำรวจมาจับกุมดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้ประมาณเดือนกว่าก็เคยมีคนร้ายเข้าไปงัดห้องทำงานของตนขโมยเอาคอมพิวเตอร์ไป 1 เครื่อง จึงต้องซื้อกล้องวงจรปิดมาติดตั้งไว้ดูความเคลื่อนไหวดังกล่าว
ด้านนายสันติ ผู้ต้องหาเมื่อจำนนด้วยหลักฐานยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือขโมยโมเด็มไวร์เลสเพียงคนเดียว ส่วนเพื่อนๆ ที่มาด้วยไม่เกี่ยวข้อง เนื่องจากตนดื่มเหล้าจนเมาแล้วเกิดคึกคะนองขณะเดินผ่านลงมาจากหอพัก มองเห็นโมเด็มอินเทอร์เน็ตตั้งอยู่จึงเดินไปถอดสายแล้วเอาใส่ถถุงพลาสติกเดินออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวนายสันติ พร้อมของกลางไปดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถานในยามวิกาลต่อไป