xs
xsm
sm
md
lg

“แบ็กทูสกูล” ปีนี้ส่อคึกแข่งดุ “นันยาง” แบกต้นทุนเพิ่มงบลุย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แบ็กทูสกูลคึกคัก ผู้ปกครองอั้นใช้เงินปีก่อน ส่งปีนี้แข่งดุ “นันยาง” เพิ่มงบการตลาดอีก 30% ลุยเซกเมนต์ประถมต่อเนื่อง หวังช่วยดันรายได้รวมโต 8% รั้งบัลลังก์รองเท้านักเรียนอีกสมัย ย้ำตรึงราคาเดิม ยอมแบกรับต้นทุนเพิ่ม 10% ขาดแรงงานฝีมือดี อัดเครื่องจักรเสริมกำลังผลิตลดต้นทุน

นายจักรพล จันทวิมล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท นันยางมาร์เก็ตติ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดแบ็กทูสกูล หรือตลาดสินค้าต้อนรับเปิดเทอมนั้น เชื่อว่าปีนี้จะกลับมาคึกคักมากกว่าปีก่อน เนื่องจากปีก่อนสถานการณ์ทางเศรษฐกิจแย่กว่าปีนี้ ทำให้กำลังซื้อในปีก่อนไม่ค่อยดี จึงอั้นซื้อสินค้ากลุ่มแบ็กทูสกูล ในปีนี้จึงมีแนวโน้มที่ตลาดจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง เพราะสินค้าแบ็กทูสกูลถือเป็นสินค้าจำเป็นที่ผู้ปกครองต้องซื้อ

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตลาดรองเท้านักเรียนปีนี้น่าจะโตขึ้น 3-5% คิดเป็นมูลค่ากว่า 5,200 ล้านบาท จากปีก่อนทรงตัว แบ่งเป็นผ้าใบ 61% พีวีซี 28% และอื่นๆ 1% การใช้งานอยู่ที่ 1.3 คู่ต่อคนต่อปี โดยปีนี้การทำตลาดจะเน้นเรื่องของคุณภาพ และฟังก์ชันการใช้งานมากขึ้น ส่วนโปรโมชันด้านราคานั้นอาจจะมีบ้างในกลุ่มแมสโปรดักต์ที่มีราคาถูกกว่าแบรนด์หลัก 50% จากผู้เล่นหลักที่มีในตลาด 2 แบรนด์ ปีนี้น่าจะมีผู้เล่นรายใหม่เข้ามารวม 2-4 แบรนด์

สำหรับนันยาง ปีนี้พร้อมใช้งบโฆษณาเพิ่ม 30% หรือใช้กว่า 65 ล้านบาทสำหรับทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย ซึ่งปีนี้บริษัทจะเน้นรองเท้านักเรียนในกลุ่มเด็กเล็กระดับประถมศึกษาอายุ 6-9 ขวบมากขึ้นหลังจากเข้ามารุกในปีก่อน คาดว่าจะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอีก 15% จากเดิมทำรายได้อยู่ในสัดส่วน 25% ของรายได้รวม จะเพิ่มเป็น 28-30% ได้ พร้อมมีส่วนแบ่งในตลาดรองเท้านักเรียนไซส์เล็กที่ 33% อยู่ในอันดับที่สองของตลาด

ล่าสุดในช่วงก่อนเปิดเทอม บริษัทได้เปิดตัวแคมเปญภาพยนตร์โฆษณาตัวใหม่ออกมาชื่อ “นันยางตะลุยอวกาศ” ชูคุณสมบัติผลิตจากยางธรรมชาติแท้ 100% มีคุณสมบัติยืดหยุ่น สวมใส่สบาย มั่นใจว่าช่วงเปิดเทอมนี้ยอดขายจะเพิ่มขึ้นจากปกติราว 30% ได้ นอกจากนี้ บริษัทยังเพิ่มช่องทางจำหน่ายมากขึ้น ครอบคลุมทุกอำเภอทั่วประเทศ รวมกว่า 4,000 แห่ง และจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป โดยยังคงจำหน่ายในราคาเดิม แม้จะมีต้นทุนเพิ่ม 10% ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 285 บาทต่อคู่ เชื่อว่าจะส่งให้นันยางมีส่วนแบ่งทางการตลาดในตลาดรวมรองเท้านักเรียนเพิ่มเป็น 40-42% อยู่ในอันดับหนึ่งอีกครั้ง จากปีก่อนมีแชร์ 38% หรือทั้งปีน่าจะมีรายได้เติบโตขึ้น 8% มาจากผ้าใบระดับมัธยม 60% ผ้าใบระดับประถม 28% และอื่นๆ 12-20%

นายชัยพัชร์ ซอโสตถิกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท นันยางอุตสาหกรรม จำกัด กล่าวเสริมว่า ในส่วนของภาคการผลิตรองเท้านันยาง ยอมรับว่าตั้งแต่ปลายปีก่อนจนถึงปัจจุบันต้นทุนเพิ่ม 10% ทั้งในส่วนเชื้อเพลิง ค่าแรง และราคาวัตถุดิบ โดยเฉพาะแรงงานที่มีทักษะยอมรับว่าค่อนข้างขาดแคลน ซึ่งทางบริษัทพยายามบริหารจัดการคลังสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ลดขั้นตอนการผลิตให้สั้นลง รวมถึงเพิ่มกำลังเครื่องเข้ามาทดแทนแรงงานคนตามแผนซื้อเครื่องจักร 3 ปี ตั้งแต่ปี 55-57 รวม 150 ล้านบาท โดยสามารถทดแทนแรงงานคนไปได้ 15% ปีนี้จะเพิ่มเครื่องจักรเข้ามาอีก หรือน่าจะทดแทนแรงงานคนได้เป็น 30% พร้อมเพิ่มกำลังการผลิตได้อีก 20-25% ในปีนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น