หมูแพงอีกแล้ว! ล่าสุดขยับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 150-155 บาท สูงกว่าราคาแนะนำของพาณิชย์ คาดราคามีโอกาสพุ่งถึง 160 บาท หลังหมูเป็นราคาพุ่งจากปริมาณหมูเข้าสู่ตลาดลดลง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า ราคาขายปลีกหมูเนื้อแดง (ไหล่-สะโพก) ในตลาดสดกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้ปรับขึ้นมาอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 150-155 บาท ซึ่งปรับขึ้นจากช่วงปลายเดือน ก.พ. ที่ขายอยู่ที่ กก.ละ 140-145 บาท หรือปรับขึ้นมา กก.ละ 10 บาท โดยมีแนวโน้มที่ราคาเนื้อหมูจะปรับเพิ่มขึ้นอีก หลังจากที่ปริมาณหมูที่เข้าสู่ตลาดลดลง 5-10% โดยความต้องการบริโภคหมูต่อวันอยู่ที่ 4 หมื่นตัว แต่ปริมาณหมูที่เข้าสู่ระบบต่อวันเหลือเพียงแค่ 3.8 หมื่นตัว
โดยราคาขายปลีกหมูเนื้อแดงที่ปรับเพิ่มขึ้นสูงกว่าราคาแนะนำที่กรมการค้าภายในประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 17-22 มี.ค. 2557 ซึ่งกำหนดราคาขายปลีกหมูเนื้อแดงตัดแต่ง (เนื้อสะโพก เนื้อไหล่) กรุงเทพฯ ภาคกลาง และภาคตะวันตกไม่เกิน กก.ละ 146 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่เกิน กก.ละ 151 บาท ภาคตะวันออกไม่เกิน กก.ละ 150 บาท ภาคใต้สูงไม่เกิน กก.ละ 148 บาท และภาคเหนือไม่เกิน กก.ละ 152 บาท
ทั้งนี้ กลุ่มผู้เลี้ยงหมูได้ให้ข้อมูลว่า แนวโน้มราคาหมูเนื้อแดง โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ มีโอกาสปรับขึ้นสูงถึง กก.ละ 160 บาท หากหมูเป็นหน้าฟาร์มปรับขึ้นมาอยู่ที่ กก.ละ 80 บาท และปัจจุบันหมูเป็นหน้าฟาร์มได้ปรับขึ้นมาอยู่ที่ กก.ละ 75 บาทแล้ว บางพื้นที่ขยับขึ้นเป็น กก.ละ 78 บาท
สาเหตุที่ราคาเนื้อหมูจะปรับตัวสูงขึ้นมาจากปริมาณหมูที่เข้าสู่ตลาดลดลง เนื่องจากผู้เลี้ยงหมูรายย่อยได้เลิกกิจการเพราะแบกรับภาระขาดทุนไม่ไหว ทำให้ปริมาณหมูที่หายไปจากตลาดประมาณ 5 หมื่นตัว หรือหายไป 10-15% ของหมูทั้งระบบ และยังมีผลมาจากโรคท้องเสียในลูกหมูที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือน ก.ย.ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ลูกหมูตายเป็นจำนวนมาก และส่งผลต่อปริมาณหมูขุนในอีก 6 เดือนข้างหน้า หรือในช่วงเวลาปัจจุบัน ทำให้ราคาหมูเป็นขยับขึ้นมามาก
มีรายงานข่าวว่า เร็วๆ นี้กรมการค้าภายในจะเรียกประชุมผู้ประกอบการเลี้ยงหมูทั้งระบบ เพื่อควบคุมสถานการณ์ราคาไม่ให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากไปกว่านี้ เพราะเกรงจะกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว ขณะที่ทางกลุ่มผู้เลี้ยงหมูได้ยืนยันว่าพร้อมที่จะให้ความร่วมมือหากภาครัฐมีมาตรการแทรกแซงออกมา เพราะหากราคาหมูสูงเกินไปก็จะกระทบต่อยอดขายในอนาคต
