xs
xsm
sm
md
lg

ชิงประธาน ส.อ.ท. สองฝ่ายชูปลอดการเมือง-ต้านขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี เปิดแถลงนโยบาย
ชิงเก้าอี้ประธาน ส.อ.ท.คนใหม่ “สุพันธุ์-วิศิษฎ์” ต่างมั่นใจคะแนนนำ พร้อมโชว์วิชัน ส.อ.ท.ปลอดการเมือง ต้านนโยบายขึ้นค่าแรงมาหาเสียง จับตา 17 มี.ค.คณะกรรมการเลือกตั้งฝ่ายไหนมาชนะทันที

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ผู้สมัครชิงประธาน ส.อ.ท.คนใหม่ แทนนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล เปิดเผยว่า ยืนยันว่าเวทีนี้จะไม่ให้มีการเมืองเข้ามาแทรกแซง ส.อ.ท.โดยเด็ดขาด และกล้าที่จะชนการเมืองภายใต้ผลประโยชน์ของสมาชิกเป็นหลัก หากได้รับการเลือกเป็นประธานเรื่องแรกที่จะดำเนินการคือจะประสานงานกับทีมงานของนายวิศิษฎ์ ลิ้มประนะ รองประธาน ส.อ.ท.ซึ่งเป็นคู่แข่ง ให้เข้ามาทำงานร่วมกันเพื่อที่จะสร้างองค์กรให้เป็นปึกแผ่น ไม่แตกแยกเช่นที่ผ่านมาทันที

“ผมไม่ได้เป็นนอมินีของใคร แม้แต่นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานคนปัจจุบัน ผมเป็นกลางมาโดยตลอด ดังนั้นผมจึงไม่ใช่คู่ขัดแย้งของนายวิศิษฎ์ แต่เป็นเพียงคู่แข่ง” นายสุพันธุ์กล่าว

นายสุพันธุ์กล่าวว่า นโยบายที่ไม่ต้องการให้นักการเมืองนำมาหาเสียง คือ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ โดยต้องการให้เป็นกลไกตลาดเนื่องจากที่ผ่านมาการขึ้นค่าแรง 300 บาทต่อวันได้ส่งผลกระทบอย่างมาก นอกจากนี้ ต้องการเห็นรัฐบาลใหม่มีนโยบายการพัฒนาระบบขนส่ง หรือลอจิสติกส์ เพื่อลดต้นทุนการขนส่งให้ภาคอุตสาหกรรมไทยเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่จะทำให้ไทยก้าวสู่ศูนย์กลางภูมิภาคนี้

นอกจากนี้ ต้องการให้ดูแลเรื่องระบบการสื่อสารของไทยที่ให้เกิดการแข่งขันการบริการที่มากขึ้นเพื่อลดต้นทุนการบริการซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันค่ายมือถือหลักๆ ก็มีเพียง 2-3 ค่ายเท่านั้น

นายทวี ปิยะพัฒนา รองประธานอาวุโส ส.อ.ท.กล่าวว่า วันที่ 17 มี.ค.ที่จะมีการเลือกคณะกรรมการเลือกตั้ง 232 คน เชื่อว่าก็จะรู้ผลว่านายสุพันธ์ชนะแน่ เบื้องต้นประเมินว่าคะแนนของนายสุพันธ์จะทิ้งห่างอีกฝ่าย 500 คะแนน โดยคะแนนจากกรรมการแต่งตั้ง 116 คนเชื่อว่า 70% เลือกนายสุพันธ์ และคณะกรรมการเลือกตั้ง 232 คนก็จะเลือกทั้งหมด ซึ่งผู้ที่จะมาลงทะเบียนเลือกตั้งจะมี 3,000 คนจากปกติจะมาเพียง 2,300 คนจากสมาชิก 7,000 คน
นายวิศิษฎ์ ลิ้มประนะ
นายธนิต โสรัตน์ รองประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า ตนสนับสนุนนายวิศิษฎ์ ซึ่งมั่นใจว่าคะแนนเสียงส่วนใหญ่มาจากเอสเอ็มอีซึ่งมีมากถึง 70% ของสมาชิกทั้งหมด โดยสิ่งที่วิตกกังวลคือความโปร่งใสในการเลือกตั้งเท่านั้น ดังนั้นวันที่ 17 มี.ค.คงจะต้องติดตามสถานการณ์การเลือกตั้ง

นายวิศิษฐ ลิ้มประนะ รองประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า หากได้รับเลือกตั้งจะทำให้องค์กร ส.อ.ท.ปลอดจากการแทรกแซงทางการเมือง และพร้อมที่จะทำงานร่วมกันเพื่อไม่ให้องค์กรแตกแยก และที่สำคัญจะไม่ให้รัฐบาลใช้นโยบายอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันนำมาหาเสียงอีก เพราะเท่ากับเป็นการนำเงินของภาคเอกชนมาหาเสียงโดยตรง
กำลังโหลดความคิดเห็น