เริ่มต้นกระบวนการเลือกตั้งประธาน ส.อ.ท.คนใหม่ก็ป่วนแล้ว! ฝ่ายหนุนวิศิษฎ์ลั่น 17 มี.ค. เลือกกรรมการส่อทุจริตมีฟ้องร้องแน่ พร้อมเปิดนโยบายตั้ง “ไทยโทร” ลุยลงทุน ตปท. ด้าน “สุพันธุ์” มั่นใจชนะ หวั่นอีกฝ่ายสร้างความวุ่นวาย
รายงานความเคลื่อนไหวของการเลือกตั้งประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) คนใหม่แทนนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ที่จะหมดวาระลงตามขั้นตอนจะมีคณะกรรมการจำนวน 349 คนเพื่อมาเลือกประธาน โดยในจำนวนคณะกรรมการดังกล่าวจะมา จากคณะกรรมการชุดแต่งตั้ง 117 คน โดยมาจาก ส.อ.ท.จังหวัดทั่วประเทศ และอีก 232 คนจะมาจากการเลือกตั้งในวันที่ 17 มีนาคม 2557 โดยล่าสุดฝ่ายผู้สนับสนุนนายวิศิษฎ์ ลิ้มประนะ รองประธาน ส.อ.ท.ที่เป็นผู้เข้าชิงตำแหน่งแข่งกับนายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองประธาน ส.อ.ท. ได้ตั้งระบุว่าการคัดเลือกกรรมการสรรหา 10 คนเพื่อเลือกสมาชิกลงสมัครกรรมการเลือกตั้งพบความผิดปกติที่กลุ่มนายสุพันธุ์เลือกกรรมการฝ่ายตนเองทั้งหมดจากเดิมจะต้องฝ่ายละครึ่ง ซึ่งต่อมากลุ่มนายสุพันธุ์ได้ยอมให้เสนอชื่อกรรมการเข้าไป 60 คนดังนั้นคงต้องติดตามใกล้ชิด
นายธนิต โสรัตน์ รองประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า กลุ่มตนสนับสนุนนายวิศิษฎ์ เพราะมีธุรกิจของตนเองจึงเข้าใจกระบวนการต่างจากอีกฝ่ายที่ไม่มีธุรกิจเป็นของตนเอง นอกจากนี้บุคลิกและแนวทางการทำงานยังสอดคล้องกับสถานการณ์ขององค์กรที่ต้องการนักประสานและมีความสามารถ อย่างไรก็ตาม ในการเลือกตั้งวันที่ 17 มีนาคม หากการแข่งขันเป็นธรรม ไม่ส่อทุจริต ฝ่ายตนพร้อมยอมรับ แต่หากพบว่าผิดปกติจะดำเนินการฟ้องร้องตามกฎหมายแน่นอน และจะขอตรวจสอบการลงคะแนนทุกขั้นตอน
นายวิศิษฎ์ ลิ้มประนะ รอง และประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร ส.อ.ท. กล่าวว่า ตนพร้อมยอมรับการเลือกตั้งไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ยังยืนยันจะยังคงทำงานใน ส.อ.ท.ต่อ เพราะที่ผ่านมาเมื่อเลือกตั้งเสร็จฝ่ายที่พ่ายแพ้มักออกจาก ส.อ.ท. โดยนโยบายการทำงานระยะสั้นคือการแก้ปัญหาความขัดแย้งภายในองค์กร การเร่งแก้ปัญหา ช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี ฯลฯ และจะผลักดันให้ไทยมีองค์การส่งเสริมการค้าของไทย หรือไทยโทร เพราะจะช่วยให้การลงทุนของเอกชนในต่างประเทศมีความคล่องตัว มีระบบ เป็นต้น
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า มั่นใจว่าจะได้รับการเลือกตั้งแน่นอน เพราะทำงานให้ ส.อ.ท.เป็นเวลา 10 ปีในสายงานจังหวัด รวมถึงฝ่ายกลุ่มอุตสาหกรรมก็ให้การสนับสนุน หลังการเลือกตั้งหากชนะจะหารือกับนายวิศิษฎ์ทันทีเพื่อเดินหน้าทำงานและจะให้ทีมงานของนายวิศิษฎ์ร่วมทำงานด้วยเพราะมีความชำนาญในหลายด้าน
สำหรับกรณีข้อร้องเรียนเรื่องการตั้งกรรมการสรรหานั้นได้เจรจาสรุปกันแล้ว ซึ่งการที่ตั้งฝ่ายตนทั้งหมดเพราะสมาชิกฝ่ายนายวิศิษฎ์ไม่มีตำแหน่งแล้วแต่ก็เปิดทางให้เสนอมา 60คนช่วงเริ่มการเลือกตั้งเพื่อให้เกิดความสบายใจและเป็นธรรม แต่ยอมรับว่าค่อนข้างกังวลว่าจะเกิดความวุ่นวาย และร้องเรียนว่าฝ่ายตนทุจริต ดังนั้นตนจะให้ฝ่ายนายวิศิษฎ์ตรวจสอบขั้นตอนการเลือกตั้งทั้งหมด และอยากให้สมาชิกคำนึงถึงผลกระทบ ภาพลักษณ์องค์กรด้วย
