น้ำมันโลกดิ่งดันค่าการตลาดน้ำมันผู้ค้าพุ่งแตะระดับ 1.80 บาทต่อลิตร “กบง.” รีบฉวยรีดเงินดีเซลโปะกองทุนน้ำมันฯ 40 สต.ต่อลิตรทำให้พลิกกลับมาเก็บดีเซลเข้ากองทุนฯ 30 สตางค์ต่อลิตรทันทีจากเดิมที่อุดหนุนอยู่ 10 สต.ต่อลิตร พร้อมลดอุดหนุน E20 ลง 25 สต.ต่อลิตร ผู้ค้าน้ำมันรอราคาน้ำมันปิดตลาดสิงคโปร์เย็นนี้หากลดลงเตรียมปรับลดราคาขายปลีก 1-2 วันนี้แน่ เหตุค่าการตลาดจะพุ่งเกิน 1.80 บาทต่อลิตร
นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) วันนี้ (11 มี.ค.) ว่า ที่ประชุม กบง.เห็นชอบปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 2 ชนิด ดังนี้ น้ำมันดีเซลปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ 0.40 บาท/ลิตร จากเดิมกองทุนน้ำมันฯ ชดเชยให้ดีเซล 0.10 บาท/ลิตร ปรับเป็นจัดเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ สำหรับดีเซล 0.30 บาท/ลิตร และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ปรับลดอัตราชดเชยลง 0.25 บาท/ลิตร จากเดิมชดเชย 1.30 บาท/ลิตร ปรับเป็นชดเชย 1.05 บาท/ลิตร
การปรับครั้งนี้จะไม่มีผลกระทบต่อราคาขายปลีกแต่อย่างใด
ผลจากการปรับอัตราเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันฯ ครั้งนี้จะช่วยทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายจ่ายลดลงประมาณวันละ 24 ล้านบาท จากเดิมมีรายจ่ายวันละ 37 ล้านบาท เป็นรายจ่ายวันละ 13 ล้านบาท ทั้งนี้ ราคาน้ำมันตลาดโลก ราคาปิดตลาด ณ วันที่ 10 มีนาคม 2557 น้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 104.20 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ราคาน้ำมันเบนซิน 121.08 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และน้ำมันดีเซลราคา 121.85 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
นายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการอิสระด้านพลังงาน กล่าวว่า ราคาน้ำมันตลาดโลกขณะนี้เคลื่อนไหวในทิศทางที่ลดลงต่อเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง โดยเฉพาะล่าสุดที่ตัวเลขการส่งออกลดถึง 18% ประกอบกับสถานการณ์ในยูเครนยังไม่มีอะไรรุนแรงส่งผลให้ค่าการตลาดน้ำมันของผู้ค้าในไทยอยู่ในระดับสูง โดยดีเซลเฉลี่ย 1.80 บาทต่อลิตรทำให้ กบง.ตัดสินใจรีดเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ขณะที่กลุ่มเบนซินอื่นๆ ค่าการตลาดก็แตะระดับ 1.80 บาทต่อลิตรเช่นกัน ดังนั้นคาดว่าผู้ค้าน้ำมันจะรอราคาปิดตลาดสิงคโปร์เย็นนี้ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนแปลงราคา ซึ่งหากราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ตลาดสิงคโปร์ลดลงคาดว่าผู้ค้าจะตัดสินใจปรับลดราคาลงใน 1-2 วันนี้