“พาณิชย์” เตรียมเปิดประมูลขายข้าวในต่างจังหวัด นำร่องก่อนที่เชียงราย นครสวรรค์ และพิจิตร

“พาณิชย์” ไฟเขียวจัดประมูลขายข้าวในต่างจังหวัด นำร่องเชียงราย นครสวรรค์ และพิจิตรก่อน เพื่อเร่งระบายข้าวหาเงินจ่ายชาวนา โดยใช้ราคากลางเดียวกับที่ประมูลในส่วนกลาง “นิวัฒน์ธำรง” มั่นใจหาเงินจ่ายคืนงบกลางได้ทัน 31 พ.ค.นี้ ส่วนการเร่งระบายข้าวมั่นใจไม่ทำให้ราคาตก เล็งเปิดประมูลหาเอกชนปรับปรุงข้าวส่งจีทูจีจีน 19 มี.ค.นี้

นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการระบายข้าวว่า ที่ประชุมได้มีมติมอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศดำเนินการระบายข้าวในพื้นที่ภูมิภาค โดยสามารถดำเนินการได้ทันที ไม่ต้องขออนุมัติจากคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ซึ่งคาดว่าจะเริ่มประมูลได้ประมาณกลางเดือน มี.ค.นี้ หลังจากมีการประมูลทั่วไปในกรุงเทพฯ ในวันที่ 10 มี.ค.แล้ว และจะเปิดให้ผู้ประกอบการ และโรงสี ยื่นประมูลซื้อข้าวในสต๊อกของรัฐได้ โดยจะเปิดประมูลเดือนละ 2 ครั้ง

สำหรับการกำหนดราคากลางจะใช้หลักเกณฑ์ของกรมการค้าต่างประเทศที่ใช้ราคากลางเดียวกันทั่วประเทศ โดยมีจังหวัดนำร่องในการเปิดประมูล เช่น เชียงราย นครสวรรค์ และพิจิตร ส่วนปริมาณที่จะเปิดประมูลยังคาดการณ์ไม่ได้ เนื่องจากต้องดูความต้องการของผู้ประกอบการในพื้นที่ก่อน

ส่วนชาวนาในพื้นที่จะได้สิทธิ์รับเงินจากการระบายข้าวครั้งนี้ก่อนหรือไม่ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะการจ่ายเงินในโครงการรับจำนำข้าวจะต้องเป็นไปตามลำดับการขึ้นทะเบียนใบประทวน

นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์สามารถระบายข้าวได้เฉลี่ยเดือนละ 8,000-10,000 ล้านบาท โดยตั้งแต่เดือน ต.ค. 2556-ม.ค. 2557 ได้คืนเงินให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ไปแล้ว 35,000 ล้านบาท จึงมั่นใจจะสามารถคืนงบกลางให้กระทรวงการคลังได้ภายในวันที่ 31 พ.ค.นี้ตามกำหนดอย่างแน่นอน

ส่วนการขายข้าวในรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ในวันที่ 19 มี.ค. จะเปิดให้มีการประมูลให้เอกชนเข้ามาปรับปรุงคุณภาพข้าว เพื่อส่งมอบให้คอฟโก รัฐวิสาหกิจของจีน ก่อนทยอยส่งมอบเดือนละ 1 แสนตัน และจะเดินหน้าขายจีทูจีให้ประเทศอื่นๆ ต่อไป โดยมี 2-3 ประเทศที่แสดงความสนใจ

ทั้งนี้ ยืนยันว่าการเปิดประมูลข้าวอย่างต่อเนื่อง และหลายช่องทางจะไม่ทำให้ราคาข้าวตกต่ำ โดยจะรักษาระดับราคาอย่างเหมาะสม

สำหรับการประชุมคณะอนุกรรมการตรวจสอบและติดตามการรับจำนำข้าว เพื่อติดตามภายหลังสิ้นสุดโครงการรับจำนำข้าว ปีการผลิต 2556/57 เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา มีโรงสีที่ยังค้างส่งมอบข้าวตั้งแต่ 5,000 ตันขึ้นไปจำนวน 35 ราย ใน 18 จังหวัด เช่น พิจิตร นครสวรรค์ กำแพงเพชร พิษณุโลก สุโขทัย อุทัยธานี ลพบุรี สุรินทร์ เป็นต้น และมีปริมาณข้าวสารคงเหลือที่ไม่มีภาระผูกพันจำนวน 16.7 ล้านตัน