xs
xsm
sm
md
lg

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นคดีปาร์คกิ้งปลอมลายมือชื่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คลี่อีกปม คดีลานจอดรถสนามบินสุวรรณภูมิ กรรมการบริษัทปาร์คกิ้งฯ ซึ่งได้รับสัมปทานฟ้องกันเรื่องปลอมลายมือ ล่าสุดศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นจำคุก"ธนกฤต เจตกิตติโชค" 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา เหตุใช้เอกสารการเปลี่ยนแปลงกรรมการและอำนาจกรรมการในบริษัทปาร์คกิ้งฯ  ซึ่งมีลายมือชื่อปลอมของ"ธรรศ  พจนประพันธ์"กรรมการบริษ้ท

รายงานข่าวแจ้งถึงความคืบหน้าคดีลานจอดรถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิว่า เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2556 ศาลอุทธรณ์ ได้พิจารณาคดีหมายเลขดำที่ 740/2556, คดีหมายเลขแดงที่ 14774/2556 ที่นายธรรศ พจนประพันธ์ เป็นโจทก์ ฟ้องนายธนกฤต เจตกิตติโชค จำเลยที่ 1 ในความผิดเกี่ยวกับเอกสาร โดยศาลอุทธรณ์มีความเห็นตามศาลชั้นต้น ว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้ปลอมลายมือชื่อโจทก์ และใช้เอกสารปลอม ซึ่งมีลายมือชื่อโจทก์ปลอมไปแก้ไขอำนาจกรรมการและวัตถุประสงค์ของบริษัท ปาร์คกิ้ง แมเนจเม้นท์ จำกัด ผลการกระทำก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้วที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุก 1ปี โดยไม่รอการลงอาญา นั้นเหมาะสม

ทั้งนี้  บริษัท ปาร์คกิ้งฯ ซึ่งได้จดทะเบียนระหว่างวันที่ 12 เมษายน 2553- วันที่ 22 เมษายน 2553 มีกรรมการ 3 คน คือ โจทก์, จำเลยที่1 และนายจุมพล ญาณวินิจฉัย โดยกำหนดให้โจทก์ลงลายมือชื่อร่วมกับกรรมการอื่นอีกหนึ่งคน รวมสองคนและประทับตราสำคัญของบริษัท มีอำนาจกระทำการผูกพันบริษัท แต่จำเลยได้ทำเอกสารปลอมขึ้น ขอยื่นจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อความหนังสือบริคณห์สนธิ ข้อ 3 (วัตถุประสงค์ของบริษัท) และขอแก้ไขเพิ่มเติมจำนวนหรือกรรมการซึ่งลงชืิ่อผูกพันบริษัทจากเดิมที่จดทะเบียนไว้ให้"โจทก์ลงลายชื่อรวมกับกรรมการอื่นอีกหนึ่งคนรวมเป็นสองคนและประทับตราสำคัญของบริษัท"เป็น "กรรมการสองคนลงลายชื่อร่วมกันและประทับตราสำคัญของบริษัท"

ซึ่งข้อความที่พิมพ์ลงในแบบฟอร์มคำขอจดทะเบียนบริษัทเป็นเท็จและจำเลยได้ปลอมลายมือชื่อของโจทก์ในเอกสารคำขอจดทะเบียนรวม 14 รายชื่อและปลอมลายมือชื่อในสำเนาภาพถ่ายบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านอีก 1 รายชื่อ เมื่อนายทะเบียนรับคำขอและหลงเชื่อว่าเอกสารถูกต้องจึงเปลี่ยนแปลงแก้ไขตามที่จำเลยประสงค์โดยโจทก์ไม่ยินยอมและไม่เคยลงลายมือชื่อในคำขอจดทะเบียน และศาลชั้นต้นได้สืบมูล
ฟ้องและการตรวจพิสูจน์ลายมือมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่าไม่ใช่ลายมือชื่อของบุคคลเดียวกัน ศาลอุทธรณ์จึงเห็นพ้องตามศาลชั้นต้น ว่าจำเลยที่1 เป็นผู้ปลอมลายมือชื่อโจทก์
กำลังโหลดความคิดเห็น