“แซมโซไนท์” ฝ่าการเมืองวุ่น เพิ่ม “แบรนด์-ช่องทาง” เสริมทัพ

“แซมโซไนท์” เดินเกมรุกตลาดกระเป๋าเดินทาง ชู 3 กลยุทธ์หลักผลักดันการเติบโต เล็งนำเข้าแบรนด์ใหม่ๆ ในเครือเสริมพอร์ต ขยายช่องทางจำหน่ายใหม่อี-คอมเมิร์ซ โฮมชอปปิ้ง อัดเกมตลาด ด้วยงบลงมุนรวมปีนี้ 170 ล้านบาท ดันแชร์รวมเป็น 40% ในปีนี้

น.ส.ลิดา เจษฎาถาวรวงษ์ ผู้บริหารสูงสุด บริษัท แซมโซไนท์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายกระเป๋าเดินทาง “แซมโซไนท์” เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางแผนธุรกิจที่จะขยายการนำเข้าแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดในไทย และการสร้างช่องทางจำหน่ายใหม่ที่หลากหลาย รวมทั้งการทำตลาดต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นกลยุทธ์หลักในการผลักดันให้บริษัทมีการเติบโต โดยปีนี้ตั้งเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 25% จากปีที่แล้วที่เติบโต 20% แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจจะมีผลกระทบจากปัญหาการเมืองบ้างก็ตาม

เนื่องจากปัจจุบันนี้ผู้คนนิยมการเดินทางมากขึ้น เพราะความเจริญทางด้านการสื่อสารที่ทำให้โลกเล็กลง และการมีอินฟราสตรักเจอร์ที่สมบูรณ์มากขึ้น ทั้งรถไฟฟ้า สายการบินราคาต่ำที่เพิ่มขึ้นมาก ส่งผลดีต่อคนเดินทางมากขึ้นนั่นเอง แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวมตอนนี้จะไม่ค่อยดีก็ตาม และปัญหาการเมืองก็ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโดยรวม แต่เชื่อว่าตลาดรวมกระเป๋าเดินทางในไทยที่มีมูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาทยังเติบโตได้ดี

ปัจจุบันบริษัทฯ มีกระเป๋าเดินทางหลายแบรนด์ และหลากหลายประเภทจำหน่ายอยู่ซึ่งเป็นในเครือแซมโซไนท์ทั้งหมด เช่น แซมโซไนท์เรด แซมโซไนท์แบล็ค อเมริกันทัวริสเตอร์ ไฮเซียร่า ซึ่งจับกลุ่มเป้าหมายแตกต่างกันไป และมีหลายประเภท ล่าสุดปีนี้จะเปิดตัวแบรนด์ใหม่ คือ ฮาร์ทมันน์ เจาะกลุ่มลักซ์ชัวรี และอยู่ระหว่างการศึกษานำเข้าแบรนด์ใหม่ๆ อีก รวมทั้งบริษัทแม่ยังอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาเสริมด้วย

ส่วนกลยุทธ์ขยายช่องทางจำหน่ายใหม่ๆ นั้น ปีนี้จะบุกเพิ่มหลายช่อทาง ซึ่งเดือนมีนาคมจะเปิดตัวช่องทางอี-คอมเมิร์ซ โดยเริ่มใช้กับแบรนด์ไฮเซียร่าก่อน รวมทั้งการขยายช่องทางโฮมชอปปิ้งด้วยเพราะสื่อเคเบิลทีวี และทีวีดาวเทียมได้รับความนิยมมากขึ้น ทำให้สินค้าเข้าสู่ผู้บริโภคได้หลากหลาย และการขยายร้านเข้าสู่คอมมูนิตีมอลล์มากขึ้นด้วย

นอกจากนั้น ปีนี้ก็จะเพิ่มร้านแซมโซไนท์อีก 20 สาขา เช่น ที่สมุย ศาลายา เป็นต้น จากปัจจุบันที่จุดจำหน่ายของแซมโซไนท์ทั่วประเทศมี 130 จุด แบ่งเป็น กรุงเทพมหานคร 70% และต่างจังหวัด 30% โดยมีชอปประมาณ 28 สาขา นอกนั้นเป็นเคาน์เตอร์ โดยปีนี้ใช้งบลงทุนขยายจุดจำหน่าย 100 ล้านบาท และงบการตลาด 70 ล้านบาท รวมเป็น 170 ล้านบาท ล่าสุดจัดรายการแซมโซไนท์ เทรด อิน กระเป๋าเดินทางเก่าแลกใหม่

น.ส.ลิดา กล่าวต่อว่า มูลค่าตลาดรวมกระเป๋าเดินทางในไทยโดยเฉพาะในช่องทางโมเดิร์นเทรดเท่านั้น มีประมาณ 3,000 ล้านบาท เติบโต 20% แบ่งเป็น 1. กลุ่มลักซ์ซัวรี มูลค่า 300 ล้านบาท โดยแซมโซไนท์เป็นผู้นำตลาดนี้ด้วยแชร์ 33% และมีเป้าหมายเพิ่มเป็น 50% ในอีก 3 ปีจากนี้ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตดี 2. กลุ่มแมสมูลค่าประมาณ 1,700 ล้านบาท แซมโซไนท์มีแชร์ 30% เป็นอันดับที่ 2 ในกลุ่มนี้ ซึ่งกลุ่มนี้มีการเติบโตที่ดีจะเป็นกลุ่มที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญมากขึ้น และ 3. กลุ่มพรีเมียม มูลค่าตลาด 1,000 ล้านบาท บริษัทมีแชร์ 50% เป็นผู้นำตลาดแล้ว ซึ่งหากรวมทั้งหมดทุกกลุ่มในภาพรวมบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดเป็นผู้นำด้วยแชร์ 35% และมีเป้าหมายเพิ่มแชร์รวมเป็น 40% ในปีนี้ด้วย