“คูลลิซึ่ม” ทุ่ม 100 ล้านบาททำการตลาดแบบ 360 องศา ปรับแนวรับพฤติกรรมคนฟังที่เปลี่ยนไป ตอกย้ำความเป็นผู้นำคลื่นลิสซึนนิ่ง มั่นใจดันรายได้ 690 ล้านบาท โตกว่า 20%
นายสุธี ฉัตรรัตนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท คูลลิซึ่ม จำกัด ผู้บริหารคลื่นคูล ฟาเรนไฮต์ 93 และคูล เซลเซียส 91.5 กล่าวว่า แม้การเกิดขึ้นของสื่อใหม่ๆ จะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของสื่อดั้งเดิมแต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อสื่อวิทยุ เนื่องจากการเกิดขึ้นของอินเทอร์เน็ตกลับเพิ่มประสิทธิภาพให้วิทยุยังเป็นเพียงสื่อเดียวในขณะนี้ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มคนทำงานในช่วงเวลาทำงานได้ดีที่สุดจากพฤติกรรมการรับฟังเดิมที่สามารถรับฟังจากวิทยุเท่านั้น ส่วนปัจจุบันสามารถเลือกรับฟังผ่านช่องทางใหม่ๆ ได้หลากหลายมากขึ้น เช่น ทางสมาร์ทโฟนผ่านแอปพลิเคชัน ทางคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บไซต์ เป็นต้น
ดังนั้น ทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ หลังจากที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีจากการรีแบรนด์เป็นคูลลิซึ่มในปีที่ผ่านมาคือ จะยังคงปรับตัวให้สอดรับกับภาวะตลาดข้างต้นตลอดเวลาเช่นเดียวกับปีก่อนๆ ซึ่งถือเป็นแนวทางที่ขานรับกับบริษัทแม่ คือ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ที่เพิ่งประกาศก้าวสู่ Media Revolutionist 2014 ผู้ปฏิวัติวงการสื่อ
ปีนี้เตรียมใช้งบทำการตลาดประมาณกว่า 100 ล้านบาท เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์คูลลิซึ่มกับฐานผู้ฟังกลุ่มเดิมให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็เพื่อขยายฐานไปยังผู้ฟังกลุ่มใหม่ให้เข้ามาเป็นผู้ฟังของแบรนด์คูลลิซึ่มภายใต้กลยุทธ์ 360 องศา Engagement ซึ่งบริษัทฯ เตรียมใช้งบลงทุนประมาณ 20 ล้านบาท สำหรับพัฒนาเทคโนโลยีการกระจายเสียงระบบออนไลน์ต่อเนื่องจากปีก่อน
โดยเฉพาะช่องทางรับฟังสมาร์ทโฟนผ่านแอปพลิเคชันและคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงสำหรับสร้างสตูดิโอออกอากาศใหม่เพื่อรองรับการเข้าสู่ยุคดิจิตอลเต็มตัวเนื่องจากปีนี้จะมีการออกอากาศทีวีดิจิตอลเป็นครั้งแรกในเมืองไทย มั่นใจว่าสิ้นปีนี้มีรายได้อยู่ที่ 690 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 20% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ตามเป้าที่วางไว้ 500 ล้านบาท
สาเหตุที่เติบโตมาจากความแข็งแกร่งของแบรนด์คูล ฟาเรนไฮต์ 93 ที่สามารถครองความเป็นผู้นำตลาดคลื่นเพลงเพราะอันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 ทำให้ปีนี้มีการปรับอัตราค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นอีก 20% จากปีก่อน ขณะที่แบรนด์คูล เซลเซียส 91.5 เป็นที่รู้จักและจดจำในวงกว้างมากขึ้น จึงน่าจะเห็นผลเติบโตของการขายโฆษณาในปีนี้นั่นเอง
นายสุธี ฉัตรรัตนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท คูลลิซึ่ม จำกัด ผู้บริหารคลื่นคูล ฟาเรนไฮต์ 93 และคูล เซลเซียส 91.5 กล่าวว่า แม้การเกิดขึ้นของสื่อใหม่ๆ จะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของสื่อดั้งเดิมแต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อสื่อวิทยุ เนื่องจากการเกิดขึ้นของอินเทอร์เน็ตกลับเพิ่มประสิทธิภาพให้วิทยุยังเป็นเพียงสื่อเดียวในขณะนี้ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มคนทำงานในช่วงเวลาทำงานได้ดีที่สุดจากพฤติกรรมการรับฟังเดิมที่สามารถรับฟังจากวิทยุเท่านั้น ส่วนปัจจุบันสามารถเลือกรับฟังผ่านช่องทางใหม่ๆ ได้หลากหลายมากขึ้น เช่น ทางสมาร์ทโฟนผ่านแอปพลิเคชัน ทางคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บไซต์ เป็นต้น
ดังนั้น ทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ หลังจากที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีจากการรีแบรนด์เป็นคูลลิซึ่มในปีที่ผ่านมาคือ จะยังคงปรับตัวให้สอดรับกับภาวะตลาดข้างต้นตลอดเวลาเช่นเดียวกับปีก่อนๆ ซึ่งถือเป็นแนวทางที่ขานรับกับบริษัทแม่ คือ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ที่เพิ่งประกาศก้าวสู่ Media Revolutionist 2014 ผู้ปฏิวัติวงการสื่อ
ปีนี้เตรียมใช้งบทำการตลาดประมาณกว่า 100 ล้านบาท เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์คูลลิซึ่มกับฐานผู้ฟังกลุ่มเดิมให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็เพื่อขยายฐานไปยังผู้ฟังกลุ่มใหม่ให้เข้ามาเป็นผู้ฟังของแบรนด์คูลลิซึ่มภายใต้กลยุทธ์ 360 องศา Engagement ซึ่งบริษัทฯ เตรียมใช้งบลงทุนประมาณ 20 ล้านบาท สำหรับพัฒนาเทคโนโลยีการกระจายเสียงระบบออนไลน์ต่อเนื่องจากปีก่อน
โดยเฉพาะช่องทางรับฟังสมาร์ทโฟนผ่านแอปพลิเคชันและคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงสำหรับสร้างสตูดิโอออกอากาศใหม่เพื่อรองรับการเข้าสู่ยุคดิจิตอลเต็มตัวเนื่องจากปีนี้จะมีการออกอากาศทีวีดิจิตอลเป็นครั้งแรกในเมืองไทย มั่นใจว่าสิ้นปีนี้มีรายได้อยู่ที่ 690 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 20% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ตามเป้าที่วางไว้ 500 ล้านบาท
สาเหตุที่เติบโตมาจากความแข็งแกร่งของแบรนด์คูล ฟาเรนไฮต์ 93 ที่สามารถครองความเป็นผู้นำตลาดคลื่นเพลงเพราะอันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 ทำให้ปีนี้มีการปรับอัตราค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นอีก 20% จากปีก่อน ขณะที่แบรนด์คูล เซลเซียส 91.5 เป็นที่รู้จักและจดจำในวงกว้างมากขึ้น จึงน่าจะเห็นผลเติบโตของการขายโฆษณาในปีนี้นั่นเอง