ประมูลข้าวในเอเฟต 2.2 แสนตันคึกคัก เอกชน 17 รายแห่ร่วมประมูลแต่เสนอราคาไม่สูงมาก เหตุก่อนหน้านี้ทุกคนรู้ว่ารัฐขายข้าวให้เอกชนบางรายราคาสุดถูก คาดรอบนี้รัฐได้เงินคืนประมาณ 1 พันล้านบาท “สมชาติ” ยันโครงการจำนำใบประทวนยังไม่ล่ม เตรียมเสนอ ครม.อนุมัติเร็วๆ นี้
นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า การเปิดประมูลข้าวสารสต๊อกรัฐบาลที่ได้จากโครงการรับจำนำข้าวปี 2556/57 ปริมาณ 2.27 แสนตัน ผ่านตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (เอเฟต) แบ่งเป็นข้าวขาว 5% จำนวน 1.67 แสนตัน และข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 จำนวน 6 หมื่นตัน มีผู้ประกอบการให้ความสนใจยื่นซองเสนอราคาส่วนต่างจำนวน 17 ราย โดยข้าวขาว 5% มีการเสนอราคาส่วนต่าง (ค่าเบสิส) ครบทุกกองข้าวตั้งแต่ราคาลบ 1.70 บาท/กก. ถึงลบ 3.49 บาท/กก. ข้าวหอมมะลิ เสนอส่วนต่างประมาณ 60% ของกองข้าวที่เปิดขาย หรือประมาณ 3 หมื่นกว่าตัน เสนอราคาส่วนต่างตั้งแต่ลบ 1.72 บาท/กก. ถึงลบ 4.73 บาท/กก.
ทั้งนี้ การเปิดประมูลในเอเฟตรอบนี้เป็นครั้งที่ 5 มีผู้มายื่นซอง 17 ราย ถือว่าคึกคักพอควร แต่ราคาที่เสนอส่วนต่างอาจไม่ดีเท่ากับการเสนอราคารอบก่อน โดยจะเจรจาต่อรองราคาส่วนต่าง ซึ่งหากขายได้ครบทุกกองที่เสนอซื้อเข้ามาคาดว่าจะได้เงินประมาณ 1,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นเงินที่ขายข้าวได้ประมาณ 1-1.2 หมื่นบาท/ตัน เพื่อนำเงินไปส่งคืนกระทรวงการคลัง และนำไปจ่ายค่าข้าวให้ชาวนาต่อไป
สำหรับการเปิดประมูลข้าวในเอเฟตจำนวน 4 ครั้งที่ผ่านมาสามารถอนุมัติขายได้ 1.86 แสนตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งผู้ประกอบการที่ได้รับการอนุมัติขายกำลังเร่งชำระเงินให้กระทรวงพาณิชย์อยู่ และกำลังจะเปิดประมูลครั้งที่ 6 ในวันที่ 26 ก.พ. 2557 ปริมาณ 2 แสนตัน เป็นข้าวจากโครงการรับจำนำปี 2556/57 ซึ่งเป็นข้าวใหม่ โดยมีแผนที่จะเปิดประมูลผ่านเอเฟตให้ได้เดือนละ 2-3 ครั้ง
นายสมชาติกล่าวว่า การให้ชาวนานำใบประทวนมากู้เงินโรงสีในสัดส่วน 50% ของมูลค่าในใบประทวน ยืนยันว่ายังไม่ล้มโครงการ โดยกำลังทำเรื่องเสนอเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้ ครม.พิจารณาอนุมัติงบประมาณ 1,200 ล้านบาทในการจ่ายดอกเบี้ยแทนเกษตรกร และกำลังให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบรายละเอียดว่าทำได้หรือไม่ พร้อมกับส่งเรื่องไปให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาด้วย ส่วนการสลักหลังในใบประทวน จะให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) สลักหลังแทน เพราะเป็นหน่วยงานที่ออกใบประทวนให้แก่ชาวนา ซึ่ง ธ.ก.ส.มีหน้าที่จ่ายเงินอย่างเดียว
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการเปิดประมูลข้าวในเอเฟตครั้งนี้ สาเหตุที่มีการเสนอราคาส่วนต่างลบมาก เนื่องจากในวงการค้าขายรู้ว่าข้าวที่รัฐบาลขายให้เอกชนไปก่อนหน้านี้ปริมาณ 8.5 แสนตัน ได้ขายไปในราคาเฉลี่ย 9.5-11 บาท/กก. หากซื้อแพงก็จะเสียเปรียบ โดยราคาเสนอซื้อข้าวในครั้งนี้ ข้าวหอมมะลิเฉลี่ยที่ 27.50 บาท/กก. ข้าวขาว 11 บาท/กก. ซึ่งเป็นราคาดีกว่าที่กระทรวงพาณิชย์อนุมัติให้แก่ผู้ส่งออกบางราย
ด้านนายสุรศักดิ์ เรียงเครือ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวภายหลังคณะอนุกรรมการระบายข้าวสารเปิดซองการเสนอราคาประมูลข้าวรัฐบาลจำนวน 4.6 แสนตัน เมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า อยู่ระหว่างการเจรจาต่อรองราคากับผู้เสนอซื้อ โดยกำหนดให้เจรจาแล้วเสร็จภายในวันที่ 13 ก.พ. ซึ่งอาจจะใช้เวลาเจรจาถึงกลางคืน และจะนำเสนอนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์พิจารณาเห็นชอบ ซึ่งได้ยึดราคาตลาดในการเจรจาและเจรจากับทุกรายที่ผ่านหลักเกณฑ์ โดยมีผู้ผ่านเกณฑ์เกิน 10 ราย จาก 18 รายที่ยื่นประมูล คาดว่าจะขายได้มากกว่าครึ่งของที่เปิดประมูล
