แม็คกรุ๊ปทุ่ม 340 ล้านบาทรุกปี 2557 ขยายช่องทางใหม่ๆ ทั้งร้านมัลติแบรนด์ โมบายล์ยูนิต พร้อมนำเข้าแบรนด์ต่างประเทศ เพิ่มลงทุนในประเทศอาเซียน หวัง 5 ปีนั่งบัลลังก์ยีนส์อันดับ 1 ในอาเซียน มั่นใจปีนี้รายได้รวมแตะ 4,400 ล้านบาท โตไม่ต่ำกว่า 20%
นางสาวสุณี เสรีภาณุ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนขยายช่องทางจำหน่ายรูปแบบใหม่ๆ รวมทั้งการขยายธุรกิจการนำเข้ายีนส์แบรนด์ต่างประเทศเข้ามาจำหน่ายในไทย เพื่อเป็นการสร้างโอกาสทางการตลาดและเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้นด้วย โดยวางเป้าหมายผลประกอบการเติบโตทุกปี ซึ่งปัจจุบันแบรนด์แม็คเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่ง 38-39% ขณะที่อันดับสองคือลีวายส์ และอันดับสามคือ ลี จากตลาดรวมยีนส์ที่เติบโตปีละ 10%
โดยปีนี้ตั้งงบลงทุนรวมไว้ 340 ล้านบาท แบ่งเป็นต่างประเทศ 40 ล้านบาท และในประเทศ 300 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายช่องทางจำหน่ายเป็นหลัก และการขยายเพิ่มอีก 1 แบรนด์ที่คาดว่าจะเปิดตัวได้ในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ เป็นเสื้อผ้าแบบยูนิเซก จับกลุ่มคนวัยทำงาน ราคาสินค้าตั้งแต่ 2,000 บาทขึ้นไป จากเดิมมีแบรนด์หลัก คือ แม็ค, แม็คมินิ, แม็ค มี, แม็คเลดี้, แม็ค พิงค์ และเดอะ บลู บราเธอร์
รวมทั้งการวางแผนที่จะนำนาฬิกาเข้ามาจำหน่ายในร้านของเครือข่ายแม็คด้วย หลังจากที่บริษัทฯ โดยบริษัท ลุค บาลานซ์ ได้ลงทุน 210 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนหุ้น 51% ในบริษัท ไทม์ เดคโค่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายนาฬิกาแบรนด์ชั้นนำจากทั่วโลกเมื่อปีที่แล้ว
ล่าสุดเปิดร้านบลูบราเธอร์ ซึ่งเป็นร้านแบบมัลติแบรนด์สาขาแรกที่เควิลเลจ มี 4 แบรนด์ที่จำหน่ายในร้าน คือ K.O.I. แบรนด์ KUICHI และแบรนด์ DSTREZZED ที่เป็นแบรนด์นำเข้าจากต่างประเทศโดยบริษัทฯ เอง และอีกแบรนด์ที่เป็นของบริษัทเองคือ บลูบราเธอร์ และอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะนำแบรนด์แม็คมาจำหน่ายด้วยหรือไม่
นอกจากนั้นยังเปิดร้านแบบโมบายล์ยูนิตหรือรถจำหน่ายเคลื่อนที่ ซึ่งสามารถนำเข้าไปขยายตลาดในประเทศกลุ่มเออีซีได้ด้วยในรูปแบบการร่วมทุนหรือให้แฟรนไชส์ ขณะนี้เริ่มในไทยมีแล้ว 1 คัน ราคาคันละประมาณ 3 ล้านกว่าบาท ใช้พนักงาน 3 คน เน้นเข้าไปจอดจำหน่ายตามสถานที่ชุมชนต่างๆ หรือนิคมอุตสาหกรรม เป็นต้น ซึ่งปีนี้จะเพิ่มอีก 4 คัน
รวมทั้งแผนเปิดสาขาของแม็ค ปีนี้จะขยายจุดขายแม็คยีนส์เพิ่มอีก 100 แห่งทั่วประเทศ รวมเป็น 700 จุดทั่วประเทศ ล่าสุดเปิดร้านแม็คแม็คที่หาดใหญ่สาขาแรก และสาขาสองที่พิษณุโลก พื้นที่ 200 ตารางเมตร ซึ่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์ราคาต่ำกว่าแบรนด์แม็ค
นางกานติมา เลอเลิศยุติธรรม รองประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทจะรุกต่างประเทศอย่างจริงจัง พร้อมตั้งทีมดูแลตลาดอาเซียนขึ้นมา รวมถึงปรับองค์กรให้ดียิ่งขึ้น โดยการทำตลาดต่างประเทศในอาเซียนจะเน้น 3 ประเทศหลัก คือ 1. มาเลเซีย จะเริ่มเข้าไปทำตลาดและทำแฟชั่นโชว์ในเดือน มี.ค.นี้ โดยเป็นการร่วมกับพาร์ตเนอร์ด้านเสื้อผ้าแฟชั่น 2. เวียดนาม จะเปิด 2 สาขาที่ฮานอย และไซ่ง่อน เป็นการเปิดสาขาไปกับทางศูนย์การค้าโรบินสันที่จะเข้าไปลงทุนที่นั่น และ 3. อินโดนีเซีย กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจา จากเดิมที่เข้าไปทำตลาดในพม่ามากกว่า 1 ปีได้รับการตอบรับดีมาก รวมถึงลาวที่เข้าไปทำตลาดแล้ว
“ทางบริษัทตั้งเป้าหมายว่าภายใน 5 ปีจะก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ยีนส์อันดับ 1 ในอาเซียน หรือมีสัดส่วนยอดขายไม่ต่ำกว่า 20-25% ของรายได้รวมบริษัทในขณะนั้น จากปัจจุบันสัดส่วนรายได้ต่างประเทศยังมีไม่ถึง 10% ส่วนในปีนี้คาดว่ารายได้จากต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา”
บริษัทฯ มั่นใจว่าถึงสิ้นปีนี้บริษัทฯ จะมีรายได้รวมกว่า 4,400 ล้านบาท เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมาที่เติบโตมากกว่า 20% จากเป้าที่วางไว้
สำหรับบริษัท ไทม์เดคโค่ มีรายได้สิ้นสุดเดือนกันยายน ปี 2554 ประมาณ 476 ล้านบาท กำไรสุทธิ 28 ล้านบาท ส่วนสิ้นเดือนกันยายน ปี 2555 มีรายได้รวม 453 ล้านบาท มีกำไร 24 ล้านบาท มีนาฬิกาจัดจำหน่ายกว่า 20 แบรนด์ ทั้งชายและหญิงในกลุ่มแฟชั่นและลักชัวรี เช่น Diesel, DKNY, Emporio Armani, Marc by Marc Jacobs, Burberry, Coach, Lacoste, Tommy Hilfiger, Victorinox Swiss Army, Fossil และ Kenneth Cole New York เป็นต้น โดยมีจุดขาย 103 แห่งครอบคลุมทั่วประเทศ