บ้านเมืองวุ่นวาย ม็อบบุกกรุง คนไทยเกาะหน้าจอทีวีติดตามสถานการณ์แบบเรียลไทม์ โอกาสทองตลาดกล่องรับสัญญาณดาวเทียม เหตุมีช่องเปิดกว้างรับชมสถานการณ์ได้ทันที ปั๊มยอดขายโตเท่าตัว “พีเอสไอ” ยอดขายพุ่ง 20% “ไอพีเอ็ม” ขายได้ร่วมแสนกล่อง ฟากกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท อ่วมยอดขายลด โดยเฉพาะ กทม.หายไปกว่า 50%
นายสมพร ธีระโรจนพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอสไอ โฮลดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายจานรับสัญญาณดาวเทียมระบบซีแบนด์ “พีเอสไอ” เปิดเผยว่า ยอดขายจานดาวเทียมในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันพบว่ามียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นกว่า 20% ส่วนสำคัญมาจากเหตุการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นส่งผลให้ผู้ชมต้องการหาช่องทางการรับชมช่องรายการที่นำเสนอเหตุการณ์การชุมนุม ณ เวลานั้น แบบเรียลไทม์ที่ละเอียดและมีข้อเท็จจริง ซึ่งจะมีเฉพาะในช่องทีวีดาวเทียม ขณะที่ฟรีทีวีไม่สามารถตอบสนองได้เต็มที่ และอีกส่วนหนึ่งมาจากเดือน ธ.ค.เป็นช่วงจับจ่ายใช้สอย เป็นเวลาที่ผู้บริโภคต้องการซื้อกล่องพีเอสไอเพื่อรับชมใหม่
โดยเฉพาะการเปลี่ยนจากกล่องเดิมเป็นกล่องรุ่นใหม่ ซึ่งกล่องรุ่นที่ขายดี คือรุ่นโอทู ส่วนพื้นที่ที่มียอดขายสูงสุด คือ ภาคใต้ โดยยอมรับว่ากระแสการเมือง การชุมนุมเป็นสาเหตุสำคัญของยอดขายที่เกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการวัดเรตติ้งรายการต่างๆ ของแพลตฟอร์มกล่องและจานพีเอสไอ พบว่า 1 เดือนที่ผ่านมานับตั้งแต่วันที่ 12 พ.ย.-12 ธ.ค.ช่องทีวีดาวเทียมที่นำเสนอเหตุการณ์และเกาะติดสถานการณ์การชุมนุมที่เกิดขึ้น อันดับ 1 คือ ช่องบลูสกาย แชนเนล อันดับสองคือ ช่องเอเชีย อัพเดท หรือในภาพรวมเรตติ้งใน 10 อันดับแรกของกล่องพีเอสไอ ทั้งสองช่องขึ้นมาอยู่ในอันดับ 5 และ 6 ตามลำดับ แซงช่อง 9 และช่อง 5 ที่อยู่ในอันดับ 7 และ 8 ตามลำดับ ส่วนอันดับ 1-3 คือช่อง 3 ช่อง 7 และช่องบูมเมอแรง ตามลำดับ
ทั้งนี้ พบว่าในทางกลับกัน ฟรีทีวีมีข้อจำกัดในการนำเสนอข่าว ทั้งในเรื่องของเวลา ผังรายการ สปอนเซอร์ รวมถึงนโยบายของแต่ละสถานี ทำให้ไม่สามารถนำเสนอหรือรายงานภาพเหตุการณ์ต่างๆ แบบเรียลไทม์ตามที่ผู้ชมต้องการได้ จึงเป็นโอกาสของแพลตฟอร์มกล่องรับสัญญาณดาวเทียมต่างๆ ให้มียอดขายในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมานี้เติบโตสูงมาก
ด้านนายมานพ โตการค้า ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอพีเอ็มทีวี จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายจานดาวเทียมภายใต้แบรนด์ “IPM” (จานส้ม) กล่าวว่า ยอดขายของไอพีเอ็มในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาถือว่าดีมาก หรือน่าจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 100,000 กล่อง โดยมองว่าวิกฤตทางการเมืองที่เกิดขึ้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ชมหันมาเลือกแพลตฟอร์มของจานไอพีเอ็มมากยิ่งขึ้น
ส่วนสำคัญเนื่องจากปัจจุบันแพลตฟอร์มจานไอพีเอ็มสามารถรับชมช่องรายการในลักษณะฟรีวิวได้กว่า 150 ช่อง และในส่วนของช่องทีวีดาวเทียมที่นำเสนอเหตุการณ์ทางการเมืองและการชุมนุมที่เกิดขึ้น ไอพีเอ็มสามารถตอบโจทย์ผู้ชมได้ทุกช่อง ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าถึงสิ้นปีนี้บริษัทจะมียอดขายกล่องไอพีเอ็มเป็นไปตามที่ตั้งเป้าไว้ 8 แสน-1 ล้านกล่อง
จากฐานผู้ชมทั่วประเทศในปัจจุบันมีอยู่ 3 ล้านกว่ากล่องทั่วประเทศในเดือนพฤศจิกายน
ทั้งนี้ ในส่วนของกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท กลับเห็นต่างออกไป โดยนายฟ้าใหม่ ดำรงชัยธรรม ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดกล่องดาวเทียมเมื่อสิ้นเดือนพฤศจิกายนมียอดจำหน่ายลดลงเล็กน้อย คือเพียง 4% แต่กล่อง GMMZ ยังคงรักษามาร์เกตแชร์ไว้ได้ในระดับเดิม ดังนั้นผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองไม่ได้มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของประชาชนมากนัก
ส่วนในเดือนธันวาคมยอมรับว่าได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การชุมนุมที่เกิดขึ้น หลังจากที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้ยกระดับมากขึ้น ทำให้ยอดขายสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคมลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและส่งผลต่อยอดขายคือเขตกรุงเทพฯ โดยเฉพาะพื้นที่ชั้นใน ภาคกลาง ภาคตะวันออก และพื้นที่ภาคใต้ ส่วนภาคอีสานและภาคเหนือไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
ดังนั้น GMM Z คาดการณ์ว่า ถ้าสถานการณ์บ้านเมืองยังไม่ดีขึ้นจะทำให้ภาพรวมของยอดขายกล่องทีวีดาวเทียมในเดือนธันวาคมน่าจะลดลงประมาณ 30-50% โดยพื้นที่ที่มียอดขายดีที่สุดก็ยังคงเป็นกรุงเทพมหานคร