เชือด “สรจักร” สังเวยการบินไทยขาดทุนปี 56 ยับเยิน เหตุบริหารไม่เข้าเป้าตามที่เสนอแผนไว้ แฉเหตุคนในไม่ร่วมมือ การตลาดไม่ช่วยสร้างรายได้ เผยความจริงไม่ผ่านประเมินตั้งแต่ผ่าน 6 เดือนแรกแล้วแต่บอร์ดยังให้โอกาส ที่สุดไปไม่รอดผลประกอบการไม่ดีขึ้น บีบให้ลาออกเองเพราะไม่ต้องจ่ายชดเชย
นายคณิศ แสงสุพรรณ ประธานกรรมการบริหารบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทที่มีนายอำพน กิตติอำพน เป็นประธาน วันนี้ (20 ธ.ค.) ว่า บอร์ดได้อนุมัติหนังสือลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของนายสรจักร ซึ่งได้ระบุเหตุผลว่ามีปัญหาสุขภาพ และแพทย์สั่งให้พักรักษาตัวเป็นเวลาอย่างน้อย 2-3 เดือน ซึ่งจะกระทบต่อการปฏิบัติงานในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ดังนั้น นายสรจักรจึงได้ตัดสินใจขอลาออกจากตำแหน่งเพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงานของบริษัท ทั้งนี้รวมถึงการลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัท นกแอร์ จำกัด (มหาชน) และกรรมการบริษัท ไทยสไมล์แอร์เวย์ จำกัด ด้วย โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2557 เป็นต้นไป พร้อมกันนี้ ได้มีมติแต่งตั้งนายโชคชัย ปัญญายงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส สายการพาณิชย์ รักษาการกรรมการผู้อำนวยใหญ่ ให้มีอำนาจหน้าที่ของกรรมการผู้อำนวยการใหญ่แทนตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2557 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ บอร์ดพิจารณาว่าการลาออกดังกล่าวมีเหตุผลเป็นไปตามสัญญาจ้างข้อ 5.4 ที่ระบุว่าหากผู้รับจ้างประสงค์จะลาออกก่อนระยะเวลาจ้างกำหนดให้ยื่นหนังสือลาออกต่อประธานบอร์ดล่วงหน้าอย่างน้อย 15 วัน และข้อ 5.4.1 ถือเป็นการลาออกที่มีเหตุผลชัดเจน ดังนั้นนายสรจักรไม่ต้องชดเชยให้บริษัท และบริษัทไม่ต้องจ่ายชดเชยให้นายสรจักรเช่นกัน ซึ่งนายโชคชัยจะเกษียณอายุในเดือนกันยายน 2557 ส่วนกระบวนการสรรหาจะต้องเริ่มดำเนินการตามขั้นตอนทันที
โดยบอร์ดพิจารณาว่าการลาออกดังกล่าวมีเหตุผลเป็นไปตามสัญญาจ้างข้อ 5.4 ที่ระบุว่าหากผู้รับจ้างประสงค์จะลาออกก่อนระยะเวลาจ้างกำหนดให้ยื่นหนังสือลาออกต่อประธานบอร์ดล่วงหน้าอย่างน้อย 15 วัน และข้อ 5.4.1 ถือเป็นการลาออกที่มีเหตุผลชัดเจน ดังนั้นนายสรจักรไม่ต้องชดเชยให้บริษัท และบริษัทไม่ต้องจ่ายชดเชยให้นายสรจักรเช่นกัน
นายคณิตกล่าวว่า แม้ผลการดำเนินงานของการบินไทยในรอบปี 2556 จะไม่ค่อยดีนัก แต่ไม่ได้ถือว่าเป็นผลมาจากการบริหารงานที่นายสรจักรทั้งหมดเพราะต้องแยกเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่บอร์ด ฝ่ายบริหารและฝ่ายปฏิบัติร่วมรับผิดชอบ และนายสรจักรรับผิดชอบในส่วนที่ต้องประเมินผลงาน ซึ่งอะไรที่ไม่เกี่ยวก็ได้มีการปรับลดไปแล้วตอนประเมินผลงาน 6 เดือนแรก ซึ่งนายสรจักรผ่านประเมินโดยเงื่อนไขให้ปรับปรุงในบางเรื่อง
ส่วนการให้นายโชคชัยรักษาการเชื่อว่างานจะต่อเนื่องไม่มีปัญหาและต้องมีการปรับแผนปรับโครงสร้างบริษัทใหม่จากเดิมที่นายโชคชัยได้นำเสนอไว้ โดยบอร์ดเห็นว่าเป้าหมายกำไรน้อยไป ซึ่งแผนในปี 2557 จะต้องปรับวิธีการทำงาน ให้ทุกส่วนทุกระดับร่วมขับเคลื่อนองค์กรมากกว่านี้ เพิ่มรายได้และเน้นลดรายจ่ายส่วนที่ไม่จำเป็นและลงทุนไปแล้วไม่มีประสิทธิภาพทั้งหมดเป้าลดรายจ่ายให้ได้ 2-3% คิดเป็นเงิน 6-7 พันล้านบาท ซึ่งจะประชุมเชิงปฏิบัติการ (Work Shop) กับบอร์ดวันที่ 15 มกราคม 2557 คาดว่าจะมีรายละเอียดชัดเจนว่าจะปรับส่วนไหนอย่างไร โดยหลักจะไม่ยุ่งกับเงินเดือนหรือสวัสดิการพนักงาน แม้ว่าบริษัทจะมีภาระค่าจ้างสูง สำหรับผลประกอบการในปีนี้นั้นกำลังประเมินตัวเลขเพราะยังไม่นิ่ง แต่ยอมรับว่าเดือน พ.ย.ได้รับผลกระทบเรื่องทัวร์ศูนย์เหรียญ ผู้โดยสารจีนลด ไตรมาส 4/56 อาจจะไม่ได้ตามเป้าที่ตั้ง ซึ่งกระทบต่อรายได้ของบริษัทแน่นอน
นายโชคชัย ปัญญายงค์ กล่าวว่า อัตราบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) ช่วง ต.ค.-พ.ย.56 เฉลี่ย 71-72% ส่วนเดือน ธ.ค.คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 72-73% ในขณะที่ช่วงฤดูท่องเที่ยวปกติจะอยู่ที่ประมาณ 70-76% ผลกระทบจากตลาดจีน เรื่องสถานการณ์ในประเทศ
แหล่งข่าวกล่าวว่า การลาออกของนายสรจักรมาจากไม่สามารถบริหารงานให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ได้นำเสนอไว้ได้ เช่นช่วงต้นปีตั้งเป้ารายได้ปี 2556 ว่าจะมีกำไรที่ 6 พันล้านบาท แต่ได้มีการปรับลดลงมาเหลือ 4 พันล้านบาทตอนกลางปี และเหลือ 2 พันล้านบาท จนล่าสุดคาดว่าจะกลับไปขาดทุนถึง 4 พันล้านบาท ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัยที่ไม่เอื้อ ที่สำคัญนายสรจักรไม่สามารถสร้างทีมงานของตัวเองขึ้นมาทำงานเพื่อขับเคลื่อนสร้างรายได้เพิ่มขึ้นได้ โดยเฉพาะทีมด้านการตลาดที่เป็นส่วนสำคัญในการสร้างรายได้ของบริษัท ไม่สามารถปรับเปลี่ยนโยกย้ายคนของตัวเองมาทำงานได้ เพราะถูกกลุ่มอำนาจเดิมต่อต้าน
“มีหลายเรื่องที่เป็นอุปสรรคในการทำงานของนายสรจักร เช่น มีการออกตั๋วราคาถูกในช่วง High Season ทั้งๆ ที่ช่วงนี้ราคาตั๋วต้องแพง กลายเป็นรายได้ที่ควรได้หายไป ซึ่งต้องมีการตั้งกรรมการสอบเจ้าหน้าที่กัน กรณีซื้อน้ำมันล่วงหน้าเพื่อลดความเสี่ยงราคาน้ำมันทำได้ดีแต่เจอปัญหาขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนเพราะระบบจัดซื้อน้ำมันและเครื่องบินจ่ายเป็นดอลลาร์สหรัฐ แต่บริษัทมีรายได้จากการขายตั๋วเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐแค่ 30% เป็นต้น ซึ่งการประเมินผลงานนายสรจักร 6 เดือนแรกเมื่อช่วงเดือนตุลาคม ผ่านการประเมินแบบมีเงื่อนไข เพราะยังประเมินไม่ครบทุกหัวข้อ จึงให้โอกาสอีก 6 เดือน แต่ถ้าปล่อยให้ครบเชื่อว่าจะไม่ผ่าน 1 ปี จึงให้ลาออกเป็นทางออกที่ดีกว่า ซึ่งยอมรับว่าการบินไทยเป็นองค์กรใหญ่ มีวัฒนธรรมและกลุ่มอำนาจภายใน คนนอกเข้ามาทำงานยาก” แหล่งข่าวกล่าว