ม็อบถล่มเมือง สะเทือนธุรกิจขายตรงชะลอแผนทำยอดระมัดระวังในการลงทุน คาดทั้งปีตลาดโต 5-10% ส่วนปีหน้าได้ภาครัฐคุมเข้ม บีบเหลือบขายตรงถอยทัพ สร้างธุรกิจขายตรงแข็งแกร่งยิ่งขึ้น “เอเชีย สุพรีม” ขายตรงสายเลือดไทย เร่งเครื่องลุยต่างประเทศ จับมือ “ Amaranth” บริษัทเครื่องสำอางเกาหลี สู่การเป็นฮับในอาเซียน มั่นใจปีหน้ารายได้แตะ 500 ล้านบาท จากปีนี้ทำได้ 160 ล้านบาท
นายสุธีร์ รัตนนาคินทร์ ประธานกรรมการ บริษัท เอเชีย สุพรีม จำกัด ดำเนินธุรกิจแบบขายตรงสัญชาติไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจขายตรงไทยปีนี้มองว่าทั้งปีน่าจะเติบโตได้ไม่เกิน 5-10% เท่าปีที่ผ่านมา ซึ่งในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมานี้พบว่าการชุมนุมที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจขายตรงอย่างเห็นได้ชัด กล่าวคือ กลุ่มนักขายจะชะลอแผนการสั่งซื้อสินค้าไว้ก่อน เน้นขายของในสต๊อกที่มีอยู่แทน ขณะเดียวกันผู้บริโภคเองก็ระมัดระวังในการใช้เงินมากขึ้นเพื่อต้องการรอดูสถานการณ์ต่างๆ ก่อน
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าพอถึงปีหน้าหากเหตุการณ์กลับมาคลี่คลายแล้ว บวกกับปีหน้าหลายหน่วยงานของทางภาครัฐจะเข้ามาควบคุมดูแลธุรกิจระบบขายตรงอย่างจริงจัง จะเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจขายตรงมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ส่วนธุรกิจขายตรงแบบแอบแฝงจะหายไป ผู้เข้าร่วมธุรกิจขายตรงจะมีความมั่นใจในการลงทุนในธุรกิจขายตรง บวกกับวิธีการนำเสนอสินค้าในช่องทางใหม่ตอบรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น ออนไลน์ เป็นต้น จะช่วยให้ภาพรวมธุรกิจขายตรงเติบโตได้ดียิ่งขึ้น
ในส่วนของเอเชีย สุพรีม หลังเข้าสู่ธุรกิจขายตรงมา 2 ปี ล่าสุดได้จับมือกับทาง Amaranch ซึ่งเป็นบริษัทเครื่องสำอาง ติดอันดับ 5 ของประเทศเกาหลี ในรูปแบบขายตรงชั้นเดียว โดยทางบริษัทได้สิทธิ์เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องสำอางของ Amanranch แต่เพียงผู้เดียวในไทยและในอาเซียนอีก 10 ประเทศ ถือเป็นการเพิ่มไลน์สินค้าจากเดิมเน้นขายกลุ่มเสริมอาหารเป็นหลัก โดยจะเริ่มวางจำหน่ายสินค้าในช่วงต้นปีหน้าเป็นต้นไป ใน 3 กลุ่มสินค้า 7 รายการ ราคาจำหน่ายตั้งแต่หลักร้อยบาทไปจนถึง 8,000 บาท ตั้งเป้าในปีแรกจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 120 ล้านบาท
“จากแผนจับมือกับทาง Amanranch จะเป็นส่วนสำคัญในการทำตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะในกลุ่มอาเซียน ทั้ง มาเลเซีย เขมร ลาว และพม่า ที่จะเริ่มรุกตลาดต่างประเทศอย่างจริงจังตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป โดยหลังจากนี้จะมีการจับมือกับพันธมิตรในการนำเสนอสินค้าใหม่ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง มั่นใจว่าจะส่งผลให้ปี 2557 บริษัทจะทำรายได้ถึง 500 ล้านบาท จากรายได้ในสิ้นปีนี้น่าจะปิดที่ 160 ล้านบาท สาเหตุที่ปีหน้าเติบโตก้าวกระโดดมาจากการลงทุนเพิ่มสินค้าใหม่ จับมือพันธมิตร และบุกต่างประเทศ ซึ่งสัดส่วนรายได้ในปีหน้าจะมาจากเสริมอาหาร 40% เครื่องสำอาง 20% และอื่นๆ อีก 40% โดยรายได้ทั้งหมดกว่า 20% มาจากต่างประเทศ และอีก 80% มาจากในประเทศ” นายสุธีร์กล่าวในที่สุด
นายสุธีร์ รัตนนาคินทร์ ประธานกรรมการ บริษัท เอเชีย สุพรีม จำกัด ดำเนินธุรกิจแบบขายตรงสัญชาติไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจขายตรงไทยปีนี้มองว่าทั้งปีน่าจะเติบโตได้ไม่เกิน 5-10% เท่าปีที่ผ่านมา ซึ่งในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมานี้พบว่าการชุมนุมที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจขายตรงอย่างเห็นได้ชัด กล่าวคือ กลุ่มนักขายจะชะลอแผนการสั่งซื้อสินค้าไว้ก่อน เน้นขายของในสต๊อกที่มีอยู่แทน ขณะเดียวกันผู้บริโภคเองก็ระมัดระวังในการใช้เงินมากขึ้นเพื่อต้องการรอดูสถานการณ์ต่างๆ ก่อน
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าพอถึงปีหน้าหากเหตุการณ์กลับมาคลี่คลายแล้ว บวกกับปีหน้าหลายหน่วยงานของทางภาครัฐจะเข้ามาควบคุมดูแลธุรกิจระบบขายตรงอย่างจริงจัง จะเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจขายตรงมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ส่วนธุรกิจขายตรงแบบแอบแฝงจะหายไป ผู้เข้าร่วมธุรกิจขายตรงจะมีความมั่นใจในการลงทุนในธุรกิจขายตรง บวกกับวิธีการนำเสนอสินค้าในช่องทางใหม่ตอบรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น ออนไลน์ เป็นต้น จะช่วยให้ภาพรวมธุรกิจขายตรงเติบโตได้ดียิ่งขึ้น
ในส่วนของเอเชีย สุพรีม หลังเข้าสู่ธุรกิจขายตรงมา 2 ปี ล่าสุดได้จับมือกับทาง Amaranch ซึ่งเป็นบริษัทเครื่องสำอาง ติดอันดับ 5 ของประเทศเกาหลี ในรูปแบบขายตรงชั้นเดียว โดยทางบริษัทได้สิทธิ์เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องสำอางของ Amanranch แต่เพียงผู้เดียวในไทยและในอาเซียนอีก 10 ประเทศ ถือเป็นการเพิ่มไลน์สินค้าจากเดิมเน้นขายกลุ่มเสริมอาหารเป็นหลัก โดยจะเริ่มวางจำหน่ายสินค้าในช่วงต้นปีหน้าเป็นต้นไป ใน 3 กลุ่มสินค้า 7 รายการ ราคาจำหน่ายตั้งแต่หลักร้อยบาทไปจนถึง 8,000 บาท ตั้งเป้าในปีแรกจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 120 ล้านบาท
“จากแผนจับมือกับทาง Amanranch จะเป็นส่วนสำคัญในการทำตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะในกลุ่มอาเซียน ทั้ง มาเลเซีย เขมร ลาว และพม่า ที่จะเริ่มรุกตลาดต่างประเทศอย่างจริงจังตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป โดยหลังจากนี้จะมีการจับมือกับพันธมิตรในการนำเสนอสินค้าใหม่ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง มั่นใจว่าจะส่งผลให้ปี 2557 บริษัทจะทำรายได้ถึง 500 ล้านบาท จากรายได้ในสิ้นปีนี้น่าจะปิดที่ 160 ล้านบาท สาเหตุที่ปีหน้าเติบโตก้าวกระโดดมาจากการลงทุนเพิ่มสินค้าใหม่ จับมือพันธมิตร และบุกต่างประเทศ ซึ่งสัดส่วนรายได้ในปีหน้าจะมาจากเสริมอาหาร 40% เครื่องสำอาง 20% และอื่นๆ อีก 40% โดยรายได้ทั้งหมดกว่า 20% มาจากต่างประเทศ และอีก 80% มาจากในประเทศ” นายสุธีร์กล่าวในที่สุด