ASTVผู้จัดการรายวัน - “สยามเฆมี”เปิดตัวครั้งแรก หลังฟื้นตัวจากปัญหาหนี้วิกฤตต้มยำกุ้งปี 40 โดยใช้เวลานาน 15ปีล้างหนี้กว่า 5พันล้านบาทหมด หันมารุกธุรกิจผลิตน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ป้อนปั๊มเพียว และปั๊มน้ำมันแบรนด์คนไทย หลังตลาดน้ำมัน E85 โตอย่างรวดเร็ว และผลิตน้ำมันหล่อลื่นสำหรับรถยนต์ E85 รายแรก เผยอยู่ระหว่างการวิจัยพัฒนาน้ำมันดีโซฮอล์ด้วย
นายจิระ รัตนะรัต ประธานกรรมการบริษัท สยามเฆมี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯได้ดำเนินการชำระหนี้กว่า 5 พันล้านบาทเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยใช้เวลานานถึง 15 ปีนับตั้งแต่เกิดวิกฤตต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540 ดังนั้นการดำเนินธุรกิจของกลุ่มสยามเฆมีนับจากนี้ไปจะเติบโตอย่างช้าๆแต่มั่นคง อาศัยบทเรียนที่ได้รับจากวิกฤติปี 2540 มาปรับใช้ การลงทุนโครงการใหม่ๆไม่เน้นการกู้ยืมเงินแต่จะกำไรจากการดำเนินงานแทน
อีกทั้งไม่คิดหวนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯอีก หลังถูกเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียนเมี่อปี 2543 จากวิกฤติการเงินเอเชียปี 2540
โดยธุรกิจหลักของบริษัทฯจะผลิตและจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันหล่อลื่น ธุรกิจท่าเรือ-คลังสินค้าเหลวที่สมุทรปราการ ส่วนธุรกิจเคมีภัณฑ์มีสัดส่วนรายได้น้อยลงมาก โดยในปีนี้รายได้ของ กลุ่มสยามเฆมีประมาณ 1 หมื่นล้านบาท แยกเป็นรายได้ของบริษัท สยามเฆมีประมาณ 5 พันล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากธุรกิจจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งบริษัทฯได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ค้าน้ำมันมาตรา 7
ในอดีตที่ผ่านมา สยามเฆมีเคยมีปั๊มน้ำมันภายใต้แบรนด์ แม๊กซิม่า ถึง 70 แห่งทั่วประเทศ แต่หลังจากรัฐประกาศเงินบาทลอยตัว ทำให้ภาระหนี้เงินกู้เพิ่มขึ้นเท่าตัว บริษัทเสียหายจากเหตุการณ์นี้ร่วมหมื่นล้านบาท และมีการตัดขายธุรกิจออกไป โดยปัจจุบันเหลือปั๊มน้ำมันอยู่แค่ 3 ปั๊ม และไม่มีแผนที่จะขยายปั๊มน้ำมันเพิ่มเติมในระยะอันใกล้ เนื่องจากบริษัทฯเพิ่งฟื้นตัวในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
นายจิระ กล่าวต่อไปว่า ในช่วง 2 ปีนี้กลุ่มสยามเฆมีให้ความสำคัญด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D)ใช้งบไปประมาณ 100 ล้านบาทในการพัฒนาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E 85 ที่ผสมกับ FlexoGuard ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ ป้องกันการเกิดน้ำในถังน้ำมัน เป็นการรวมตัวที่ดีไม่แยกชั้นและปกป้องการระเหยของน้ำมันE 85 ให้ช้าลงด้วย โดยปัจจุบันมีจำหน่ายในปั๊มน้ำมันแม็กซิม่า ปั๊มเพียว 70 แห่งทั่วประเทศ ปั๊มน้ำมันอิสระ และปั๊มน้ำมันแบรนด์คนไทยอีกด้วย
ซึ่งแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันE 85 เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากบรรดาค่ายรถยนต์ออกรถรุ่นใหม่ที่ใช้น้ำมันE 85 ได้ ปัจจุบันบริษัท มีกำลังการผลิตน้ำมันE 85 อยู่ที่ 3 ล้านลิตร/เดือน นับเป็นผู้ผลิตน้ำมันE 85 รายที่ 3 ของไทยรองจากบางจาก และปตท.
นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการวิจัยและพัฒนาน้ำมันดีโซฮอล์ โดยนำมาทดลองใช้กับรถบรรทุก เรือโดยสาร หากผลวิจัยออกมาดีก็จะทำเรื่องขออนุญาตต่อกรมธุรกิจพลังงานเพื่อขายเชิงพาณิชย์ต่อไป น้ำมันดังกล่าวจะมีส่วนผสมไบโอดีเซลถึง 20% และน้ำมันดีเซล 80 % ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันของไทยด้วย
นายจิระ กล่าวต่อไปว่า บริษัท สยามฟายน์เฆมี ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ดำเนินธุรกิจรับจ้างผลิตน้ำมันหล่อลื่นในอุตสาหกรรมทั่วไป และอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งในและต่างประเทศ ก็ได้มีการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นที่สำหรับรถยนต์ต่างๆด้วย ล่าสุดออกผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นสำหรับรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน อี 85 นับเป็นเป็นรายเดียวของโลก หลังจากพิสูจน์แล้ว ซึ่งบริษัทฯมีแผนจะส่งออกไปยังสหรัฐฯในอนาคต รวมทั้งอยู่ระหว่างการศึกษาวิจัยผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นสำหรับรถยนต์ที่ใช้ดีโซฮอล์ด้วย
ในปีหน้าบริษัทฯมีแผนลงทุนสร้างถังเก็บน้ำมันเพิ่มเติมในพื้นที่แถวพระสมุทธเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ ใช้เงินลงทุน 200-300 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้ให้บริการเช่าถังเก็บน้ำมันให้กับลูกค้าด้วย
นางวรวรรณ วิริยะอาภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามฟายน์เฆมี จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้มีการลงนามสัญญาเป็นตัวแทนจำหน่ายสารเพิ่มคุณภาพ (Additive) จากบริษัท อินฟีเนียม ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตสารเพิ่มคุณภาพในอุตสาหกรรมยานยนต์ชั้นนำของโลกที่ต้องการเข้ามาขยายตลาดในเอเชียแปซิฟิกเป็นเวลา 5ปี เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในการผลิตน้ำมันหล่อลื่นรายอื่นๆด้วย
ทั้งนี้ บริษัทฯได้มีการปรับปรุงโรงงานใหม่เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันหล่อลื่นเป็น 5 ล้านลิตร/เดือน และสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ถึง 10 ล้านลิตร/เดือน รองรับการเติบโตของธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นได้ในอีก 5ปีข้างหน้า ซึ่งปัจจุบันบริษัทรับจ้างผลิตน้ำมันหล่อลื่นทั้งในและต่างประเทศมากกว่า 60 แบรนด์ โดยปีนี้บริษัทฯคาดว่าจะมีรายได้จากการรับจ้างผลิตน้ำมันหล่อลื่นและการขายน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน 2,500 ล้านบาท หรือประมาณ 60 ล้านลิตร/ปี จากตลาดรวมที่มียอดขายประมาณ 600 ล้านลิตร/ปี
