กรมขนส่งฯ เผยผลการเฝ้าระวังพร้อมประสานตำรวจ 191 ตรวจจับมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาหลอกลวงประชาชน รับต่อทะเบียนรถ เผยสถิติปี 56 จับกุมลดลงเหลือ22 ราย จากปีก่อนจับได้ถึง 161 ราย
นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ตามที่กรมฯ ได้มีมาตรการในการป้องกันมิให้ประชาชนถูกหลอกลวงจากกลุ่มมิจฉาชีพ โดยการสอดส่อง และสังเกตพฤติกรรมบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมฉ้อฉล และหลอกลวงประชาชนที่มาติดต่อราชการโดยทำการเฝ้าระวังตามจุดต่าง ๆ ภายในบริเวณกรมการขนส่งทางบก ด้วยการขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 พร้อมทั้งจัดชุดตรวจการออกปฏิบัติภารกิจดังกล่าวร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มโทษด้วยการเปรียบเทียบปรับในอัตราที่สูงขึ้น กับผู้ที่กระทำความผิดซ้ำซาก พร้อมบันทึกประวัติเพื่อการเฝ้าระวังด้วยนั้น ทำให้ในปี 2556 (เดือนมกราคม–ตุลาคม 2556) สามารถจับกุมผู้ที่เข้ามาสร้างความเดือดร้อนรำคาญกับผู้มาติดต่อราชการภายในพื้นที่ได้ จำนวน 22 รายลดลงจากปี 2555 ที่จับกุมได้ 161ราย ประมาณ 86.33%
นอกจากนี้ ยังจับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ด้วยการใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถผิดกฎหมายมาติดตั้ง จำนวน 27 ราย และจับกุมผู้นำรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมาวิ่งรับจ้างโดยไม่ได้รับอนุญาตอีก 1,527 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจฯ ได้นำส่งเจ้าพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายแล้ว ทุกราย นอกจากนี้เพื่อเป็นการป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามาหลอกลวงประชาชนที่ติดต่อราชการ กรมการขนส่งทางบกได้ออกมาตรการตรวจเข้มบัตรประจำตัวของผู้จำหน่ายรถที่มาติดต่อราชการ โดยขอให้ตัวแทน ทุกคนต้องติดบัตรในการติดต่อราชการด้วยทุกครั้ง
โดย ปัจจุบันกลุ่มมิจฉาชีพได้แฝงตัวเข้ามาในรูปแบบต่าง ๆ เช่น แฝงตัวเป็นจักรยานยนต์รับจ้าง หรือขับขี่รถจักรยานยนต์ประกบรถยนต์ที่ขับผ่านสถานีรถไฟฟ้าจตุจักร โดยจะสังเกตว่ารถคันใดเตรียมชิดซ้ายเพื่อจะเลี้ยวเข้ากรมการขนส่งทางบกก็จะเข้าประกบ และอาสาดำเนินการให้โดยเรียกทรัพย์สินเป็นค่าตอบแทนซึ่งหากหลงเชื่อนอกจากต้องเสียทรัพย์สินแล้วยังอาจได้รับเอกสารปลอมด้วย และหากนำไปใช้จะมีความผิดตามกฎหมายฐานใช้เอกสารราชการปลอม
ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกได้จัดส่งผู้ตรวจการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อและตำรวจ 191 ออกตรวจตรา และเฝ้าระวังกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวอย่างใกล้ชิด รวมทั้งขอความร่วมมือสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ เพิ่มโทษด้วยการเปรียบเทียบปรับในอัตราที่สูงขึ้น กับผู้ที่กระทำความผิดซ้ำซาก พร้อมบันทึกประวัติเพื่อการเฝ้าระวังด้วย นอกจากนี้ ยังได้จัดตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ เพื่อให้คำแนะนำและรับแจ้งเหตุจากประชาชนที่ถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวง ณ บริเวณด้านหน้า อาคาร 4 กรมการขนส่งทางบก เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที