ผู้บริหาร SPCG ฟุ้งผลกำไรไตรมาส 3 พุ่งกระฉูด ร้อยละ 249 กว่า 415 ล้านบาท คาดปีหน้าจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ครบ 36 โครงการ เตรียมรับทรัพย์ไม่ต่ำกว่า 4 พันล้านบาท
น.ส.วันดี กุญชรยาคง ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG กล่าวในงาน OPPORTUNITY DAY ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงความสำเร็จของการพัฒนาโครงการโซลาร์ฟาร์มของกลุ่มบริษัท SPCG ว่า บริษัทมีรายได้จากการขายรวมในงวด 9 เดือนของปีนี้ทั้งสิ้นถึง 1,697 ล้านบาท สูงขึ้นกว่างวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 117 ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสูงถึง 415 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 249
ทั้งนี้ ผลสำเร็จที่สำคัญดังกล่าวมาจากขณะนี้โซลาร์ฟาร์มของบริษัทสามารถเริ่มทำการเชื่อมโยงจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date : COD) จนถึงสิ้นไตรมาสที่ 3 รวมทั้งสิ้น 22 โครงการ จนมีกำลังการผลิตไฟฟ้าส่งเข้าระบบจำหน่ายประมาณ 150 เมกะวัตต์ และเมื่อบริษัทมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการ และควบคุมต้นทุนโครงการได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ยิ่งส่งผลให้ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์สามารถทำอัตรากำไรขั้นต้นได้สูงกว่าร้อยละ 70 และอัตรากำไรสุทธิประมาณร้อยละ 50 ปัจจุบันโครงการที่เหลืออีก 7 โครงการได้ดำเนินการก่อสร้างจนแล้วเสร็จไปกว่าร้อยละ 90 และอยู่ระหว่างรอกำหนดวันที่จะเริ่ม COD
ส่วนอีก 6 โครงการสุดท้ายอยู่ระหว่างการก่อสร้างซึ่งมีความคืบหน้ากว่าร้อยละ 50-80 จึงมั่นใจว่าจะเสร็จสิ้นการก่อสร้างได้ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งหากทำการก่อสร้างแล้วเสร็จ และมีการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ครบ 36 โครงการ บริษัทจะมีรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้ารวมประมาณปีละไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท จากกำลังการผลิตติดตั้งรวมประมาณ 260 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ บริษัทยังมีการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องไปยังธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Roof) โดยดำเนินการผ่านบริษัทในเครือ คือ บริษัท โซลาร์ เพาเวอร์ รูฟ จำกัด หรือ SPR อีกทั้งการรุกไปยังธุรกิจพัฒนาโซลาร์ฟาร์มในต่างประเทศผ่านบริษัทในเครืออีกแห่งหนึ่ง คือ บริษัท โซล่า เพาเวอร์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด หรือ SPE โดยมีพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งทางการเงินและเทคโนโลยีที่สำคัญ คือ บริษัท เคียวเซร่า จากประเทศญี่ปุ่นเข้าร่วมทุนและพัฒนาธุรกิจต่างๆ ด้วย โดยยังคงยึดมั่นในแนวทางการดำเนินธุรกิจที่จะผลิตพลังงานสะอาด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และร่วมสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานอย่างยั่งยืนต่อไป