ส.อ.ท.แถลงจุดยืนการคัดค้านร่าง กม.นิรโทษกรรมให้กับความผิดที่เกี่ยวข้องกับคดีคอร์รัปชัน ย้ำเป็นองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันทุกรูปแบบและไม่ฝักใฝ่ทางการเมือง วอนทุกฝ่ายต้องทำให้บ้านเมืองเข้าสู่ภาวะปกติเรียกร้อยโดยเร็วเพื่อชาติ ชี้หากยืดเยื้อถึงสิ้นปีหรือต้นปีหน้ายาวไปคงไม่ส่งผลดีต่อ ศก.แน่
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการบริหาร ส.อ.ท.วาระพิเศษวันนี้ (8 พ.ย.) ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบร่วมกันที่จะคัดค้านร่างกฎหมายนิรโทษกรรมเกี่ยวกับความผิดด้านคอร์รัปชันทุกรูปแบบ และขอให้ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบทุกฝ่ายต้องดำเนินการให้บ้านเมืองเข้าสู่ภาวะปกติเรียบร้อยโดยเร็วเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ทั้งนี้ เนื่องจากหากปัญหายืดเยื้อไปถึงสิ้นปีหรือต้นปี 2557 ยาวนานเกินไปคงไม่ส่งผลดีต่อภาวะเศรษฐกิจไทยแน่
ทั้งนี้ ส.อ.ท.เป็นองค์กรที่ไม่ฝักใฝ่การเมือง แต่หากมีเหตุการณ์ความเดือดร้อนที่ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจสังคมของประเทศโดยรวม ส.อ.ท.จะต้องมีส่วนร่วมในการคลี่คลายปัญหา ซึ่งที่ผ่านมา ส.อ.ท.ก็ได้แสดงความคิดเห็นในการประชุมร่วมกับคณะกรรมการร่ามภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมาแล้ว อย่างไรก็ตาม กรณีท่าทีรัฐบาลที่ยอมจะถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแล้วนั้นคงไม่สามารถตอบได้ว่าจะนำไปสู่สถานการณ์ที่ดีขึ้นหรือไม่อย่างไร คงจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไปเพื่อประเมินทิศทางผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมอีกครั้ง
“เราต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันทุกรูปแบบ ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารในครั้งนี้จึงไม่เห็นด้วยที่จะมีการนิรโทษกรรมให้กับความผิดที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชัน ส่วนกรณี พ.ร.บ.นิรโทษกรรมส่วนอื่นๆ ก็เป็นเรื่องทางการเมืองที่จะต้องหาทางออก แต่เอกชนเองอยากต้องการให้ความวุ่นวายจบโดยเร็วเพราะกระทบต่อความเชื่อมั่นโดยเฉพาะคำสั่งซื้อหรือออเดอร์จากต่างประเทศอาจชะลอตัวได้หากเขาไม่แน่ใจว่าความวุ่นวายจะยืดเยื้อและนำไปสู่ความรุนแรงหรือไม่ ผู้สั่งซื้อสินค้าย่อมต้องประกันความเสี่ยงด้วยการเฉลี่ยไปนำเข้าจากประเทศอื่นด้วย” นายพยุงศักดิ์กล่าว
นายพยุงศักดิ์กล่าวว่า หากพิจารณาแนวโน้มเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียนในปี 2557 คาดว่าจะโตระดับ 5.2-5.7% ดังนั้นเศรษฐกิจไทยก็มีโอกาสที่จะเติบโตได้ระดับมากกว่า 5% หากไม่มีเหตุการณ์ทางการเมืองที่รุนแรงและยืดเยื้อ
