xs
xsm
sm
md
lg

“โซลิโต้” สบช่องเพิ่มรายได้ ส่ง “ชาปรุงสำเร็จ” ป้อนตลาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อัคคพันธ์ ลีวุฒินันท์ (กลาง) กรรมการผู้จัดการ บริษัท คอฟฟี่ บีนเนอรี่ จำกัด
เผยตลาดกาแฟปรุงสำเร็จโตต่อเนื่องถึงปีละ 12% ขณะที่ตลาดชาเขียวโตปีละ 20-30% ส่งผลให้ความต้องการชาสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นแต่ยังมีผู้เล่นไม่กี่รายเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 2 รสชาติ ทำตลาดค้าปลีกดั้งเดิมและต่างจังหวัดเพิ่มจากโมเดิร์นเทรด หวังกระตุ้นยอดขายรวมเพิ่มขึ้น 8% ในปี 56 ก่อนหนุนยอดขายกาแฟจาก 5% เป็น 10-15% ในปี 57 พร้อมวาดแผนส่งออกถึง 50% ภายใน 5 ปี

นายอัคคพันธ์ ลีวุฒินันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คอฟฟี่ บีนเนอรี่ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กาแฟและชาภายใต้แบรนด์ “โซลิโต้” (Zolito) เปิดเผยว่า จากการดำเนินธุรกิจกาแฟมานานกว่า 60 ปี ทำให้รับรู้ถึงความต้องการของตลาดและอัตราการเติบโตในประเทศไทยว่าได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากทั้งกลุ่มผู้บริโภครายย่อยและกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจร้านกาแฟทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดกาแฟปรุงสำเร็จ หรือ 3 in 1 มีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่องปีละ 12% มาตั้งแต่ปี 2550-2554 จึงทำให้มีผู้ประกอบการเข้าสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก

ในขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทชายังมีอยู่ไม่มากนัก ทั้งๆ ที่มีกระแสความนิยมในกลุ่มคนไทยและต่างชาติมากขึ้นไม่แพ้กัน โดยเฉพาะตลาดชาเขียวซึ่งมีการเติบโตเฉลี่ย 20-30% ต่อปี นับตั้งแต่ปี 25541 มีมูลค่า 9.1 พันล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 1.3 หมื่นล้านบาทในปี 2555 โดยคาดว่าในปี 2556 จะมีมูลค่าประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท

“การเติบโตดังกล่าวจึงทำให้บริษัทนำมาใช้เป็นองค์ประกอบในการพิจารณาและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภคในรูปแบบของชาปรุงสำเร็จ 2 รสชาติ คือชาเขียวลาเต้ และชานมเย็นไทยที่มีรสชาติเหมือนชาชงสดและสามารถทำเป็นเครื่องดื่มได้ทั้งชนิดร้อนและเย็น โดยได้มีการทดลองทำตลาดมาแล้วประมาณ 2 เดือน และเห็นว่ายังมีโอกาสเติบโตอีกมากเพราะในตลาดยังมีสินค้าเพียงไม่กี่แบรนด์เท่านั้น ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกน้อย โดยในส่วนของชาเขียวลาเต้ถือเป็นเครื่องดื่มทางเลือกเพื่อสุขภาพที่มีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ชานมเย็นไทยถือเป็นเครื่องดื่มที่ทั่วโลกรู้จักดีในเรื่องของรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนชาติใด”

ตลอดเวลาที่ผ่านมาบริษัทใช้ช่องทางการจำหน่ายสินค้าผ่านโมเดิร์นเทรดเป็นหลัก การทำตลาดครั้งนี้จึงยังคงเน้นโมเดิร์นเทรดทั้งในส่วนของเซ็นทรัล โตคิว เดอะมอลล์ ตั้งฮั่วเส็ง กูร์เมต์มาร์เก็ต ยูเอฟเอ็มฟูจิซูเปอร์ และท็อปส์มาร์เก็ต นอกจากนี้ยังมีการจำหน่ายผ่านไฮเปอร์มาร์เกตที่บิ๊กซี ส่วนร้านสะดวกซื้อเริ่มต้นที่แฟมิลี่มาร์ท และมินิบิ๊กซี โดยขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างเจรจาเพิ่มช่องทางจำหน่ายผ่านแม็คโคร และเซเว่นอีเลฟเว่น

“หลังจากการทดลองทำตลาดทำให้พบว่ามีการสั่งซื้อซ้ำเป็นจำนวนมาก ทั้งยังได้รับการตอบรับจากช่องทางอื่นๆ เข้ามาแบบเกินคาด ซึ่งถือเป็นบทพิสูจน์อย่างเป็นรูปธรรมของการเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภค บริษัทจึงตัดสินใจขยายช่องทางจำหน่ายผ่านตลาดค้าปลีกเดิม หรือ Traditional Trade เป็นครั้งแรกเนื่องจากเห็นว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายโดยตรง นอกจากนี้ยังจะเน้นตลาดต่างจังหวัดโดยเฉพาะหัวเมืองใหญ่และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อีกด้วย”

บริษัทใช้งบประมาณ 5% ของรายได้ในการทำตลาดในรูปแบบการเปิดจุดชิมฟรีตามสถานีรถไฟฟ้า BTS และย่านอาคารสำนักงานต่างๆ โดยจะให้ความสำคัญในเรื่องของสปอร์ตมาร์เกตติ้ง ด้วยการเป็นผู้สนับสนุนการแข่งขันกีฬารายการต่างๆ เช่น วิ่งมาราธอน เป็นต้น โดยคาดว่าผลิตภัณฑ์ชาสำเร็จจะช่วยทำให้บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น 8-10% ในปี 2556 จากที่มีอัตราเติบโตเฉลี่ยปีละ 5% และจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ยอดขายผลิตภัณฑ์กาแฟเพิ่มขึ้นจาก 5% เป็น 10-15% ในปี 2557

นายอัคคพันธ์กล่าวด้วยว่า บริษัทมีแผนทำตลาดส่งออกชาสำเร็จรูปในกลุ่มประเทศอาเซียน อังกฤษ สหรัฐอเมริกา และรัสเซีย ทั้งในลักษณะผ่านตัวแทนจำหน่ายและผู้นำเข้าเพื่อกระจายสินค้าให้มีความหลายทั้งในโมเดิร์นเทรด ร้านอาหาร โรงแรม และอื่นๆ โดยเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถส่งออกได้ประมาณ 5% ก่อนที่จะขยายเป็น 50% ตามเป้าหมายภายในเวลา 5 ปี


กำลังโหลดความคิดเห็น