xs
xsm
sm
md
lg

Good Morning News 07/11/56

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



  • ธ.กลางยุโรป (ECB) มีแนวโน้มตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.5 % แม้ว่า ECB จะได้รับแรงกดดันให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงหลังจากเผชิญภาวะถดถอยที่ยาวนาน ขณะที่ ธ.พาณิชย์ เริ่มส่งสัญญาณว่าจะเปิดช่องทางในการปล่อยกู้แก่ภาคเอกชนมากขึ้น เนื่องจากภาคเอกชนยังคงต้องการกู้ยืมเงินในปริมาณที่ต่ำ

  • ยอดค้าปลีกของยูโรโซนหดตัวลง 0.6% ในเดือน ก.ย. หลังยอดขายอาหารและสินค้าอื่นๆปรับตัวลดลง เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างเชื่องช้าและอัตราว่างงานสูงเป็นประวัติการณ์ถึง12.2% ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น

  • ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมอังกฤษเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 0.9% จากเดือนก่อน บ่งชี้ว่าผู้ประกอบการยังคาดหวังต่อภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นทำให้การใช้จ่ายในประเทศเพิ่มขึ้น

  • ดัชนี PMI ภาคเอกชนฝรั่งเศสขยายตัวเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือน ต.ค. ขณะที่การจ้างงานปรับเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปีครึ่ง

  • องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อของกลุ่มประเทศสมาชิกชาติยุโรปชะลอตัวลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือน ก.ย. สู่ระดับ 1.5% ซึ่งสนับสนุนให้ ธ.กลาง ในหลายประเทศสามารถดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจต่อไปได้

  • ดัชนีภาคบริการสหรัฐฯเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 55.4 จุด จาก 54.4 จุดในเดือนก่อนหน้า แสดงให้เห็นว่า การปิดหน่วยงานรัฐในเดือน ต.ค. ไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคมากนัก โดยมีตลาดบ้านเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญสำหรับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมและนอกภาคอุตสาหกรรม

  • FED สาขาบอสตัน คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับใกล้เคียงศูนย์จนถึงปี 2016เนื่องจากการขยายตัวของเศรษฐกิจยังไม่อยู่ในระดับที่ยั่งยืน และหากมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยคาดว่าจะอยู่ที่ระดับไม่เกิน 2% ในสิ้นปี 2016 ซึ่งประเมินว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวในอัตรา 3.3% อัตราเงินเฟ้ออยู่ระหว่าง 1.7-2% และอัตราการว่างงานอยู่ระหว่าง 5.4%-5.9

  • GDP อินโดนีเซียไตรมาส 3 ปี 2013 ขยายตัว 5.62% ต่ำกว่าไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัว 6% หลังอัตราดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้น 1.5% ตั้งแต่เดือน มิ.ย. เพื่อชะลอการอ่อนค่าลงของค่าเงินรูเปียห์และอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการบริโภคปรับลดลง ทั้งนี้ ธ.กลางอินโดนีเซียลดการขยายตัวเศรษฐกิจปี 2013 จาก 6.2% เป็น 5.5%-5.9% ขณะที่รัฐบาลมีแผนจะลดการใช้จ่ายเพื่อลดการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด

  • โตโยต้า เพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปีบัญชี 2013 ขึ้น 13%จากปีก่อนหน้าเป็น 1.67 ล้านล้านเยน (16.9 พันล้านดอลลาร์) หลังการอ่อนค่าลงของเงินเยนทำให้ยอดขายรถยนต์ Prius และ Lexus เพิ่มขึ้น โดยปีนี้เงินเยนอ่อนค่าลงมาแล้ว 12% และเคลื่อนไหวเฉลี่ยอยู่ที่ 99 เยน/ดอลลาร์ในเดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับที่อ่อนค่าลง 20% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน

  • จีนอาจจะไม่ซื้อยางจากไทยเพิ่มมากขึ้นในปีนี้ เนื่องมาจากความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว จำนวนสต็อกยางซึ่งอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน และการสิ้นสุดของอุปสงค์ตามฤดูกาล ส่งผลให้ราคายางร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายปี

  • เครดิตบูโร ยังไม่พบสัญญาณหนี้ครัวเรือนที่ผิดปกติ เนื่องจากสถาบันการเงินมีความเข้มงวดมากขึ้น ส่งผลให้บัญชีสินเชื่อ บ้าน รถยนต์ และบัตรเครดิตมีสัดส่วน NPL อยู่เพียง 3% ของสินเชื่อทั้งระบบ

  • วิปรัฐบาล มีมติเห็นชอบถอนร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมและร่างพ.ร.บ.ปรองดอง รวม 6 ฉบับ ออกจากการพิจารณาของสภาฯ (ซึ่งประกอบด้วยร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ จำนวน 5 ฉบับ ที่พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน นายนิยม วรปัญญา นายสามารถ แก้วมีชัย นายพีระพันธุ์ พาลุสุข และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นผู้เสนอ และร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิด เนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชนที่นายนิคม วรปัญญา เป็นผู้เสนอ) ส่วนร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับที่แก้ไขโดยกรรมาธิการเสียงข้างมากที่กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาในชั้นของวุฒิสภาวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ หรืออาจจะเร็วกว่านั้น ยังต้องรอมติของวุฒิสภาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป หากวุฒิสภาลงมติไม่รับหลักการ ต้องทิ้งร่างกฎหมายดังกล่าวไว้ 180 วัน  สภาผู้แทนราษฎรจึงจะสามารถตัดสินใจได้ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป (เว้นแต่ถูกตีความว่า พ.ร.บ. ฉบับนี้เป็นกฎหมายเกี่ยวกับการเงิน สามารถพิจารณาได้ทันที)

  • "ฟอร์บส์" นิตยสารธุรกิจชั้นนำของสหรัฐ ชี้ว่า ความขัดแย้งทางการเมืองของไทยมีความรุนแรงมากกว่าปัญหาทางการเมืองของสหรัฐ

  • ก.การต่างประเทศ เผยว่า ขณะนี้มีประเทศที่แจ้งเตือนนักท่องเที่ยวเรื่องการเดินทางมาไทยแล้ว 8 ประเทศ ซึ่งประกอบด้วย แคนาดา บราซิล อังกฤษ ฝรั่งเศส ออสเตรีย สวีเดน ตะวันออกกลาง และอิสราเอล





  • SET Index ปิดที่ 1,434.97 จุด เพิ่มขึ้น 19.53 จุด (+1.38%) ด้วยมูลค่าซื้อขาย 43,539.29 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยปรับตัวในแดนบวก เนื่องจากปัญหาการเมืองในประเทศเริ่มผ่อนคลายลง หลัง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมมีแนวโน้มไม่ผ่านการพิจารณาจากวุฒิสภาตั้งแต่วาระแรก อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามการพิจารณาของศาลโลกต่อประเด็นเขาพระวิหาร ในวันที่ 11 พ.ย.นี้

  • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดที่ระดับ 2,139.61 จุด ลดลง 17.63 จุด หรือ -0.82 % ซึ่งเป็นผลมาจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มสถาบันการเงิน เภสัชภัณฑ์ และสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อลดความเสี่ยงและรอติดตามการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งจะประกาศนโยบายเศรษฐกิจในปีงบประมาณ 2014




  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงในช่วง -0.02 ถึง +0.02% มูลค่าการซื้อขาย86,793.71 ล้านบาท สำหรับวันนี้ไม่มีการประมูล




  • ยอดขายทองคำที่เหมืองเพิร์ธมินท์ (แหล่งส่งออกทองคำรายใหญ่อันดับ 1 ของออสเตรเลีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตทองคำรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก) เพิ่มขึ้น 13% ในเดือน ต.ค. มาอยู่ที่ 77,255 ออนซ์ ซึ่งเป็นผลจากการที่ราคาทองคำปรับลดลง ทำให้มีคำสั่งซื้อล่วงหน้าจำนวนมาก


กำลังโหลดความคิดเห็น