ดีเอ็นเอฟื้นชีพ “เอ็มทีวี” คืนจอไทย

“ดีเอ็นเอ” ผุดบริษัทลูก “อันลิมิเต็ด คอนเท้นท์” จับ MTV หวนคืนหน้าจอทีวีไทยหลังหายไป 3 ปี รับชมได้ทางทรูวิชั่นส์ และพีเอสไอ วางโพซิชันนิงช่องเป็นช่องเจเนอรัลทีวีสำหรับวัยรุ่น ขับเคลื่อนด้วยรายการเพลง หวังสิ้นปี 14 รับรายได้จากโฆษณาร่วม 100 ล้านบาท ปูทาง 3-5 ปี มีช่องเพิ่มปีละช่อง รายได้เติบโตปีละ 20% ทุกปี

นายอมฤต ศุขะวณิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท อันลิมิเต็ด คอนเท้นท์ จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์ช่อง MTV Thailand เปิดเผยว่า อันลิมิเต็ด คอนเท้นท์ เกิดจากการร่วมทุนระหว่างบริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วน 50% กับทางนายกุลพงศ์ บุนนาค และนายอมฤต ศุขวณิช อีก 50% ด้วยทุนจดทะเบียนเบื้องต้น 20 ล้านบาท ในการได้รับสิทธิ์การจัดตั้งช่อง MTV ในประเทศไทย ภายใต้ชื่อ MTV Thailand เป็นเวลา 5 ปี หลังจากที่ช่อง MTV เคยอยู่ในเมืองไทย และหายไปกว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา

เบื้องต้นช่อง MTV Thailand จะออกอากาศอย่างเป็นทางการแบบ 24 ชม.ในวันที่ 2 ก.ย.นี้เป็นต้นไป ทาง 2 แพลตฟอร์มหลัก คือ 1. ทรูวิชั่นส์ ทั้งในโนวเลจแพกเกจ และพรีเมียมแพกเกจ 2. แพลตฟอร์มจานซีแบนด์ กับทางพีเอสไอ ส่วนในแพลตฟอร์มอื่นๆ นั้นกำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจา

โดยช่อง MTV Thailand ที่นำกลับมาใหม่ครั้งนี้จะมีโพซิชันนิงเป็นช่องเจเนอรัลสำหรับวัยรุ่น มีความเป็นแมสชาแนลมากกว่าเดิม ขับเคลื่อนด้วยรายการเพลงเป็นหลัก และมีรายการอื่นๆ เสริมเข้ามา เช่น วาไรตี้ เกมโชว์ โดยกว่า 60% เป็นคอนเทนต์ต่างประเทศ และผลิตเองอีก 40% และมีรายได้หลักมาจากโฆษณา คาดว่าถึงสิ้นปี 2557 จะมีรายได้กว่า 100 ล้านบาท

“การที่ดีเอ็นเอเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่จะช่วยในเรื่องของการวางแผนธุรกิจ โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย แบบออนกราวน์ จากจำนวนสาขาของดีเอ็นเอที่มีกว่า 400-500 สาขา ทั่วประเทศ จะช่วยให้เข้าถึงกลุ่มผู้ชมระดับแมสได้ง่ายขึ้น รวมถึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างรายได้จากการขายเมอร์ชันไดซ์ของทางเอ็มทีวีต่อไปในอนาคต ส่วนในปีหน้า MTV Thailand จะมีการจัดบิ๊กอีเวนต์ของตัวเองอีกส่วนหนึ่งด้วย”

นายอมฤตกล่าวต่อว่า ตามแผนการดำเนินธุรกิจภายใน 3-5 ปี ต้องการที่จะลงทุนเพิ่มช่องใหม่ๆ เข้ามาปีละ 1 ช่อง เบื้องต้นจะเป็นช่องอินเตอร์เนชันแนล เพราะสร้างตลาดได้เร็วกว่า แต่ในท้ายที่สุดพร้อมสร้างช่องขึ้นมาเอง ขณะที่ภาพรวมรายได้ของช่อง MTV Thailand ต้องการการเติบโตเพิ่มขึ้นปีละ 20% ทุกปี

อย่างไรก็ตาม จากสถาณการณ์อุตสาหกรรมทีวีในประเทศไทย ที่กำลังจะก้าวสู่ยุคดิิจิตอลทีวีนั้น ทางเจ้าของคอนเทนต์ต่างประเทศยังไม่ได้โฟกัสที่จะลงทุนในไทยมากนัก โดยมีการรอดูสถาณการณ์ไปก่อนว่าสุดท้ายแล้วผลของดิจิตอลทีวีจะออกมาในรูปแบบใด และจะใช้เวลานานเท่าใด แต่เบื้องต้นต่างประเทศให้ความสนใจต่อตลาดในไทยว่ามีศักยภาำพ เป็นตลาดใหญ่ โดยเฉพาะฐานผู้ชมระดับวัยรุ่นที่ตอบรับสิ่งใหม่ๆ ได้ดี