ช่อง 3 เผยประมูลดิจิตอลทีวีไม่เกิน 2 ช่อง แม้จะซื้อซองประมูล 4 ซอง เพื่อรักษาสิทธิ์และดูโอกาสในการแข่งขัน ฟันธงอนาคตช่องดิจิตอลทีวีมีมาก ไม่ได้แปลว่าจะประสบความสำเร็จทุกราย รายได้จากโฆษณาขึ้นอยู่เรตติ้งรายการ หรือคอนเทนต์ที่ดี ล่าสุดจับมือทรูวิชั่นส์ ร่วมถ่ายทอดสดฟุตบอล “ยูฟา แชมเปียนส์ลีก” รวม 14 คู่ เริ่ม 22 ก.ย.นี้
นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เปิดเผยว่า ตามที่ทางบริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด ของทางกลุ่มสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ได้เข้าร่วมซื้อซองประมูลดิจิตอลทีวีทั้งหมด 4 ประเภท เมื่อวันที่ 10 ก.ย.นั้น เบื้องต้นมองว่าการที่ทางช่อง 3 ตัดสินใจซื้อถึง 4 ซองนั้นเพื่อต้องการเพิ่มโอกาสให้กับตัวเอง และรักษาสิทธิ์ของตัวเองมากกว่า ไม่ได้แปลว่าจะลงทุนทั้ง 3 ช่อง และในความเป็นจริงช่อง 3 มีความพร้อมที่จะทำดิจิตอลทีวีไม่เกิน 1-2 ช่องเท่านั้น เบื้องต้นน่าจะเป็นช่องวาไรตี้แบบเอสดีเป็นหลัก
ทั้งนี้จะใช้เวลาที่เหลืออีกราว 1 เดือนหลังจากนี้เพื่อพิจารณาถึงความเป็นไปได้ และดูการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นว่าจะตัดสินใจเข้าร่วมประมูลช่องดิจิตอลทีวีประเภทใด
“ภายใน 1 เดือนหลังจากนี้ เป็นช่วงเวลาที่ทางบริษัทฯ จะได้มีการพิจารณาในเรื่องต่างๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจประมูลช่องดิจิตอลทีวี ไม่ว่าจะเป็นคู่แข่งที่ร่วมประมูลที่อาจจะทำให้ราคาประมูลสูงจนเกินไปจากราคาเริ่มต้นที่กำหมดไว้ ความชัดเจนของสัดส่วนรายการในแต่ละประเภทช่องรายการ เรื่องเรตติ้งรายการ รวมไปถึงค่าเช่าโครงข่าย และที่สำคัญโอกาสในการประมูล ล้วนเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บริษัทพร้อมซื้อซองประมูลถึง 4 ซอง ส่วนงบการลงทุนในเรื่องของดิจิตอลทีวีนั้น เชื่อว่าจะต้องใช้เป็นหลักพันล้านขึ้นไป”
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการประมูลช่องดิจิตอลทีวีมาได้หลายช่องไม่ได้แปลว่าจะประสบความสำเร็จ เพราะเบื้องต้นในปีแรกสัญญาณดิจิตอลเข้าถึงเพียง 50% ของจำนวนประชากรเท่านั้น อีกทั้งยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะเข้าถึงทุกครัวเรือนที่สามารถรับได้ ต้องขึ้นอยู่กับคอนเท้นท์รายการด้วย ที่สำคัญในแง่โฆษณาจะสนใจเลือกซื้อเวลาในช่องดังกล่าวด้วยหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับเรตติ้งคอนเทนต์รายการนั้นๆ เป็นหลัก ซึ่งในปีหน้าต้องรอดูสถานการณ์ทางเศรษฐกิจประกอบกันด้วย
หากเศรษฐกิจทรงตัวเช่นในเวลานี้ เชื่อว่าภาพรวมเม็ดเงินโฆษณาก็จะทรงตัวเช่นกัน และอาจจะมีการแบ่งไปใช้กับสื่ออื่นๆ แทนในงบเท่าเดิม นอกจากนี้ยังเชื่อว่าคอนเทนต์ต่างประเทศจะเป็นที่ต้องการสูงมาก และราคาจะขยับเพิ่มสูงขึ้นด้วย ส่วนคอนเทนต์ในประเทศก็จะมีการปรับตัวเช่นกัน
ผนึกทรูฯ ถ่ายทอดสด “ยูฟา แชมเปียนส์ลีก”
นายอาณัติ เมฆไพบูลย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ร่วมกับทางช่อง 3 ในการร่วมถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอล ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก จำนวน 14 คู่ พร้อมออกอากาศรายการไฮไลต์ ทุกคืนวันอาทิตย์ เวลา 00.30-01.00น. เริ่ม 22 ก.ย.นี้ โดยจะประเดิมถ่ายทอดสดคู่แรก คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ เลเวอร์กูเซน ในวันที่ 18 ก.ย. เวลา 01.45 น.เป็นต้นไป
นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับทางช่อง 5 ในการร่วมถ่ายทอดสดฟุตบอลยูฟา แชมเปียนส์ลีก อีกจำนวน 6 คู่ เริ่ม 25 ก.ย.นี้ เวลา 02.40-03.05 น. ซึ่งการร่วมมือกับทางช่อง 3 และช่อง 5 ในครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำความเป็น The King of Sports ที่ต้องการให้ชาวไทยได้รับชมกีฬาระดับโลกอย่างทั่วถึง ซึ่งลูกค้าสามารถรับชมได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านบริการทรูวิชั่นส์ แอนิแวร์ และสามารถรับชมได้ 2 แบบ คือ แบบรายแมตช์ ในราคา 39 บาทต่อแมตช์ และแบบแพกเกจ ถ่ายทอดสูงสุด 16 แมตช์ ในราคาแพกเกจละ 159 บาท โดยมีผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ 4 ราย คือ จักรยานยนต์ยามาฮ่า, เครื่องดื่มตราช้าง, ยูโร่คัสตาร์ดเค้ก และทรูมูฟ เอช
นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เปิดเผยว่า ตามที่ทางบริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด ของทางกลุ่มสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ได้เข้าร่วมซื้อซองประมูลดิจิตอลทีวีทั้งหมด 4 ประเภท เมื่อวันที่ 10 ก.ย.นั้น เบื้องต้นมองว่าการที่ทางช่อง 3 ตัดสินใจซื้อถึง 4 ซองนั้นเพื่อต้องการเพิ่มโอกาสให้กับตัวเอง และรักษาสิทธิ์ของตัวเองมากกว่า ไม่ได้แปลว่าจะลงทุนทั้ง 3 ช่อง และในความเป็นจริงช่อง 3 มีความพร้อมที่จะทำดิจิตอลทีวีไม่เกิน 1-2 ช่องเท่านั้น เบื้องต้นน่าจะเป็นช่องวาไรตี้แบบเอสดีเป็นหลัก
ทั้งนี้จะใช้เวลาที่เหลืออีกราว 1 เดือนหลังจากนี้เพื่อพิจารณาถึงความเป็นไปได้ และดูการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นว่าจะตัดสินใจเข้าร่วมประมูลช่องดิจิตอลทีวีประเภทใด
“ภายใน 1 เดือนหลังจากนี้ เป็นช่วงเวลาที่ทางบริษัทฯ จะได้มีการพิจารณาในเรื่องต่างๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจประมูลช่องดิจิตอลทีวี ไม่ว่าจะเป็นคู่แข่งที่ร่วมประมูลที่อาจจะทำให้ราคาประมูลสูงจนเกินไปจากราคาเริ่มต้นที่กำหมดไว้ ความชัดเจนของสัดส่วนรายการในแต่ละประเภทช่องรายการ เรื่องเรตติ้งรายการ รวมไปถึงค่าเช่าโครงข่าย และที่สำคัญโอกาสในการประมูล ล้วนเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บริษัทพร้อมซื้อซองประมูลถึง 4 ซอง ส่วนงบการลงทุนในเรื่องของดิจิตอลทีวีนั้น เชื่อว่าจะต้องใช้เป็นหลักพันล้านขึ้นไป”
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการประมูลช่องดิจิตอลทีวีมาได้หลายช่องไม่ได้แปลว่าจะประสบความสำเร็จ เพราะเบื้องต้นในปีแรกสัญญาณดิจิตอลเข้าถึงเพียง 50% ของจำนวนประชากรเท่านั้น อีกทั้งยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะเข้าถึงทุกครัวเรือนที่สามารถรับได้ ต้องขึ้นอยู่กับคอนเท้นท์รายการด้วย ที่สำคัญในแง่โฆษณาจะสนใจเลือกซื้อเวลาในช่องดังกล่าวด้วยหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับเรตติ้งคอนเทนต์รายการนั้นๆ เป็นหลัก ซึ่งในปีหน้าต้องรอดูสถานการณ์ทางเศรษฐกิจประกอบกันด้วย
หากเศรษฐกิจทรงตัวเช่นในเวลานี้ เชื่อว่าภาพรวมเม็ดเงินโฆษณาก็จะทรงตัวเช่นกัน และอาจจะมีการแบ่งไปใช้กับสื่ออื่นๆ แทนในงบเท่าเดิม นอกจากนี้ยังเชื่อว่าคอนเทนต์ต่างประเทศจะเป็นที่ต้องการสูงมาก และราคาจะขยับเพิ่มสูงขึ้นด้วย ส่วนคอนเทนต์ในประเทศก็จะมีการปรับตัวเช่นกัน
ผนึกทรูฯ ถ่ายทอดสด “ยูฟา แชมเปียนส์ลีก”
นายอาณัติ เมฆไพบูลย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ร่วมกับทางช่อง 3 ในการร่วมถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอล ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก จำนวน 14 คู่ พร้อมออกอากาศรายการไฮไลต์ ทุกคืนวันอาทิตย์ เวลา 00.30-01.00น. เริ่ม 22 ก.ย.นี้ โดยจะประเดิมถ่ายทอดสดคู่แรก คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ เลเวอร์กูเซน ในวันที่ 18 ก.ย. เวลา 01.45 น.เป็นต้นไป
นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับทางช่อง 5 ในการร่วมถ่ายทอดสดฟุตบอลยูฟา แชมเปียนส์ลีก อีกจำนวน 6 คู่ เริ่ม 25 ก.ย.นี้ เวลา 02.40-03.05 น. ซึ่งการร่วมมือกับทางช่อง 3 และช่อง 5 ในครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำความเป็น The King of Sports ที่ต้องการให้ชาวไทยได้รับชมกีฬาระดับโลกอย่างทั่วถึง ซึ่งลูกค้าสามารถรับชมได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านบริการทรูวิชั่นส์ แอนิแวร์ และสามารถรับชมได้ 2 แบบ คือ แบบรายแมตช์ ในราคา 39 บาทต่อแมตช์ และแบบแพกเกจ ถ่ายทอดสูงสุด 16 แมตช์ ในราคาแพกเกจละ 159 บาท โดยมีผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ 4 ราย คือ จักรยานยนต์ยามาฮ่า, เครื่องดื่มตราช้าง, ยูโร่คัสตาร์ดเค้ก และทรูมูฟ เอช
