จัดวางตัวเองเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางด้านวัฒนธรรมและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พร้อมเตรียมแผนตลาดใหม่ใต้แนวคิด “สามพรานโมเดล” เน้นปรับกิจกรรมและบริการให้ร่วมสมัยและตรงกับความต้องการของตลาดมากขึ้น มุ่งเจาะตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่ม FTA และขยายกลุ่มลูกค้าสิงคโปร์-ฮ่องกงเพิ่มขึ้น เผยได้รับเลือกให้รับรางวัล PATA Grand Award สาขามรดกและวัฒนธรรม กลางเดือนก.ย.นี้
นางสุชาดา ยุวบูรณ์ ประธานบริหาร สามพรานริเวอร์ไซด์ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สามพราน ริเวอร์ไซด์ ได้รับการประกาศคัดเลือกจากสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หรือ PATA (Pacific Asia Travel Association) ได้ประกาศให้เป็นผู้ชนะเลิศรางวัลระดับ PATA Grand Award ในสาขามรดกและวัฒนธรรม (Heritage and Culture) ซึ่งเป็น 1 ใน 4 สาขารางวัล PATA Gold Awards 2013 โดยจะมีการมอบรางวัลในงาน PATA Travel Mart ณ ประเทศจีน ประมาณกลางเดือนก.ย.ศกนี้
“จากข้อมูลของสมาคม PATA ให้ความเห็นว่า โครงการของสามพราน ริเวอร์ไซด์ มีส่วนส่งเสริมและช่วยเหลือชุมชนท้องถิ่นในแบบยั่งยืน โดยให้ความรู้และทรัพยากรผ่านศิลปะและมรดกทางวัฒนธรรมของไทยทั้งกับคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว การได้รับรางวัลครั้งนี้จึงสะท้อนให้เห็นว่าแนวทางที่สามพราน ริเวอรืไซต์ ยึดถือเป็นปรัชญาในการดำเนินงานมาตลอดเวลากว่า 50 ปี ในเรื่องของการใช้ชีวิตอย่างสมดุลและอนุรักษ์วิถีชีวิตตามวัฒนธรรมไทยนั้นได้รับการยอมรับในระดับสากลและสร้างความเชื่อมั่นว่าเป็นหนทางแห่งความยั่งยืนของการทำธุรกิจในอนาคต”
ทางด้าน นายอรุษ นวราช กรรมการผู้จัดการ สามพราน ริเวอร์ไซต์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาสามพราน ริเวอร์ไซต์ มีอัตราการเข้าพักของนักท่องเที่ยวเฉลี่ยประมาณ 47-50% ต่อเดือน ทำให้มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยประมาณเดือนละ 18% โดยในเดือนส.ค.ที่ผ่านมามีการเติบโตสูงถึง 25% ขณะที่สัดส่วนของนักท่องเที่ยวแบ่งเป็นลูกค้ากลุ่มไมซ์ที่เดินทางมาประชุม หรือสัมมนา ประมาณ 60% ส่วนที่เหลืออีก 40% เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชมการแสดงและกิจกรรมต่างๆ ซึ่งแบ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นและยุโรป คิดเป็น 80% ส่วนที่เหลืออีก 20% เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย
“เรามีโครงการที่จะเปลี่ยนแนวทางการทำตลาดใหม่จากเดิมที่ขายผ่านเอเย่นต์เป็นหลัก แต่นับจากนี้ไปเราจะมุ่งเน้นการทำวัตถุดิบและโปรดักส์ต่างๆ ให้มีความชัดเจนมากขึ้น เพื่อพัฒนาให้เป็นรีสอร์ตเพื่อสุขภาพซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าพักได้มากกว่า 1 คืน พร้อมกันนั้นยังจะมุ่งเจาะตลาดเฉพาะ หรือ Niche Market ในส่วนของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตัวเอง หรือ FTA มากขึ้น เนื่องจากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะมีการจองที่พักผ่านเว็บไซต์ต่างๆ เช่น www.agoda.com ประมาณ 10-15% ขณะเดียวกันก็ยังจะขยายกลุ่มลูกค้าต่างชาติทางแถบอาเซียนและเอเชียมากขึ้น โดยเฉพาะสิงคโปร์และฮ่องกง”
สามพราน ริเวอร์ไซต์ จะยังคงยึดแนวทางบริหารงานเพื่อสานต่อแนวคิด “วิถีไทยริมสายน้ำ” แต่จะมีการปรับกิจกรรมและบริการให้ร่วมสมัยและตรงกับความต้องการของตลาดมากขึ้น โดยทั้งหมดจะอยู่ภายใต้การจัดวางตัวเองเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางด้านวัฒนธรรมและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Eco-Cultural Destination) ที่ดำรงอยู่อย่างเชื่อมโยงกับชุมชนตามแบบวิถีไทยและสอดคล้องกับวิถีธรรมชาติ ภายใต้แนวคิด “สามพรานโมเดล”
“แนวคิดนี้เราจะเน้นในเรื่องของการฟื้นวัฒนธรรมทางการเกษตรโดยจะขยายผลจากภายในสู่ชุมชนอำเภอสามพราน เพื่อพัฒนาไปสู่ชุมชนออร์กานิก ซึ่งจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่เชิงอนุรักษ์ วัฒนธรรม และสุขภาพ หลังจากที่เราดำเนินการประสบผลสำเร็จมาแล้วจากโครงการตลาดสุขใจซึ่งเป็นตลาดนัดสุดสัปดาห์ซึ่งดำเนินงานมาแล้วเป็นเวลากว่า 3 ปี โดยได้รับการสนับสนุนทุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เพื่อส่งเสริมให้ตลาดสุขใจเป็นศูนย์กลางการซื้อขายสินค้าออร์กานิกในพื้นที่ โดยปัจจุบันมีผู้สนใจมาเที่ยวชมและซื้อสินค้าวันละประมาณ 600 คน ทำให้มีเงินหมุนเวียนเดือนละประมาณ 1ล้านบาท”
นอกจากนี้ สามพราน ริเวอร์ไซต์ ยังได้จัดตั้งศูนย์พัฒนาเกษตรกรเกษตรอินทรีย์สุขใจ โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มีการจัดอบรมเกษตรกรและมีนักวิชาการประจำ 6 คน เพื่อให้คำปรึกษาและลงพื้นที่ชาวบ้าน โดยมุ่งหวังว่าจะเปลี่ยนการผลิตของชุมชนให้เป็นวิถีเกษตรอินทรีย์ในอนาคต โดยมีพื้นที่สวนออร์กานิกของสามพราน ริเวอร์ไซด์ ประมาณ 30 ไร่ เพื่อใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับชุมชน โดยขณะนี้สามารถผลิตพืชผลได้เดือนละ 600-900 กิโลกรัม และกำลังจะขยายเพิ่มเป็น 1.5 ตันภายในปี 2556