xs
xsm
sm
md
lg

ชี้บทบาท “สื่อออนไลน์-ดิจิตอล” ส่งตลาดโฆษณาพุ่ง 1.25 แสนล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นางสาวอ่อนอุษา ลำเลียงพล (กลาง) นายกสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายปารเมศร์ รัชไชยบุญ (ซ้ายสุด) ประธานคณะกรรมการดำเนินงานประกวดผลงานโฆษณา “Adman Awards & Symposium 2013” และนายสุบรรณ โค้ว (ที่ 2 จากขวา) ประธานคณะกรรมการตัดสินฯ ร่วมเสวนาในหัวข้อ “โฆษณาไทยจากนี้ไปใครจะ Set Trend” ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ณ ห้องโรงละคอน อาคารดร.เจริญ คันธวงศ์ ชั้น 16 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตกล้วยน้ำไท
วงการโฆษณาระบุสื่อออนไลน์ โซเชียลมีเดีย เคเบิล ทีวีดาวเทียมและดิจิตอลส่งอิทธิพลให้โฆษณาหมดยุคสร้างเทรนด์ เพราะผู้บริโภคเปลี่ยนบทบาทเป็น “เทรนด์เซตเตอร์” ในการกำหนดกระแสเอง จนนักโฆษณาและนักสื่อสารการตลาดต้องหยิบมาใช้เพื่อสร้างสรรค์งานโฆษณาให้โดนใจผู้บริโภคมากที่สุด คาดปี 56 ตลาดโตขึ้น 3-5% คิดเป็นมูลค่ารวม 1.25 แสนล้านบาท

นางสาวอ่อนอุษา ลำเลียงพล นายกสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สมาคมจะจัดให้มีพิธีมอบรางวัลการประกวดงาน Adman Awards & Symposium 2013 ในวันพุธที่ 16 ต.ค.ศกนี้ ณ ชั้น 8 เซ็นทรัลเวิลด์ไลฟ์, ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยครั้งนี้ถือเป็นโอกาสครบรอบ 10 ปีของการจัดงาน ซึ่งนอกจากจะมีการประกวดผลงานโฆษณาแล้ว ยังมีกิจกรรมสัมมนาเชิงวิชาการและการสัมมนากลุ่มนักศึกษา ซึ่งปีนี้ได้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมเป็นเจ้าภาพในหัวข้อ “ถนนคนโฆษณา เส้นทางนอกตำรา” ทั้งยังได้รับความร่วมมือที่ดีจากสื่อพันธมิตร ประกอบด้วย M2F, True และ Marketing Oops! ร่วมกันจัดกิจกรรมสร้างการมีส่วนร่วมผ่านการโหวตให้คะแนน “รางวัลโฆษณาขวัญใจมหาชน”

“สำหรับปี 2556 คาดว่าอุตสาหกรรมโฆษณาจะมีการเติบโตจากปีที่ผ่านมาประมาณ 3-5% คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 1.25 แสนล้านบาท โดยเม็ดเงินทั้งระบบจะมีการกระจายไปในช่องทางสื่อที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของสื่อออนไลน์ทั้งเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย รวมถึงเคเบิลทีวี ทีวีดาวเทียม และทีวีดิจิตอลที่กำลังจะเข้ามามีบทบาทในอนาคตอันใกล้ ทั้งยังมีอิทธิพลสำคัญทำให้พฤติกรรมการเสพสื่อของผู้บริโภคเปลี่ยนไป สิ่งสำคัญที่สุดจึงขึ้นอยู่กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นคนทำโฆษณา นักการตลาด ผู้ซื้อหรือวางแผนสื่อ จำเป็นต้องช่วยกันสร้างสรรค์เทรนด์ที่เกิดขึ้นให้อยู่ในขอบเขตของจรรยาบรรณและความรับผิดชอบต่อสังคม”

ด้าน นายปารเมศร์ รัชไชยบุญ ประธานคณะกรรมการดำเนินงานฯ เปิดเผยว่า การประกวดผลงานปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “10 Setter โฆษณาสร้างเทรนด์ เทรนด์สร้างโฆษณา” เพื่อสะท้อนมุมมองการเปลี่ยนแปลงของวงการโฆษณาในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากโฆษณายุคปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตมาก โดยไม่ได้เป็นเพียงแค่การขยายช่องทางผ่านสื่อดิจิตอล หรือการทำคอนเทนต์ที่จับใจทันกระแสเท่านั้น แต่ยังทำให้โฆษณาที่เคยเป็นผู้นำในการสร้างกระแส หรือเทรนด์ต่างๆ ลดบทบาทลงไป เพราะผู้บริโภคเปลี่ยนมาเป็นผู้สร้างเทรนด์ หรือเทรนด์เซตเตอร์ในสังคม จนนักโฆษณาและนักสื่อสารการตลาดต้องหยิบมาใช้เพื่อสร้างสรรค์งานโฆษณาให้โดนใจผู้บริโภค โดยเชื่อว่าในอนาคตวงการโฆษณาและสื่อสารการตลาดจะเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันผ่านช่องทางต่างๆ อย่างแนบเนียนมากขึ้นกว่าเดิม”

นายสุบรรณ โค้ว ประธานคณะกรรมการตัดสินฯ กล่าวว่า ปรากฏการณ์ของการนำกระแสที่เกิดขึ้นในสังคมมาทำโฆษณาส่วนหนึ่งเป็นเพราะอิทธิพลของเทคโนโลยียุคดิจิตอลและบทบาทของโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก ยูทิวบ์ ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม และไลน์ ซึ่งมีผลทำให้ผู้บริโภคสามารถแสดงความคิดเห็นและแชร์สิ่งที่ตนเองชื่นชอบ หรือไม่ชอบในหลายสื่อได้พร้อมกันตลอด 24 ชั่วโมง อิทธิพลของสื่อยุคใหม่จึงทำให้ผู้บริโภคสามารถพลิกบทบาทเป็นผู้สร้างกระแสในสังคมจนกลายเป็นผู้สร้างเทรนด์ให้วงการโฆษณาและสื่อสารการตลาด

“ทุกวันนี้ผลงานโฆษณาส่วนใหญ่มักอิงกระแส หรือเทรนด์ที่เกิดขึ้นมาสร้างสรรค์ชิ้นงาน แต่สิ่งที่ครีเอทีฟ หรือนักการตลาดต้องพัฒนาและคิดเพิ่มเติมคือจะนำเทรนด์นั้นมาสร้างให้เกิดพลังและมีความเฉียบคมในการตอบโจทย์สินค้า หรือแบรนด์ได้อย่างไร รวมทั้งจะเลือกใช้กระแสอย่างไรไม่ให้เป็นภัยย้อนกลับมา เพราะเทรนด์ที่เกิดขึ้น หรือประโยคฮิตในผู้บริโภคกลุ่มหนึ่งอาจไม่เป็นที่ยอมรับในวงกว้างได้ ขณะเดียวกัน กระแสที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ก็จะเป็นในลักษณะมาเร็วไปเร็วทำให้ไม่เกิดความยั่งยืนเท่าที่ควร”


กำลังโหลดความคิดเห็น