แมงเม้าเล่าอินไซด์ประจำสัปดาห์ที่ 2-6 กันยายน 2556 มาแล้วจร้า ตลาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาชักแหงกๆๆ ต่อเนื่อง จากเศรษฐกิจไทยที่น่าผิดหวัง ข้อมูลการส่งออกเดือน ก.ค. ยังคงหดตัว ประกอบกับ ปัญหาซีเรียที่มหาอำนาจอย่างสหรัฐ หึ่มๆ จะใช้อาวุธลุย หลังระบุมีข้อมูลการสังหารประชาชนด้วยอาวุธเคมีที่ยอมรับไม่ได้ เลยทำให้ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,294.30 จุด ลดลง 3.28% จากสัปดาห์ก่อน พร้อมๆ กับมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 23.57% จากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 38,118.33 ล้านบาท ต่างชาติยังดาหน้าขายสุทธิต่อ
ช่วงนี้บอกตามตรงใครยังลงทุนอยู่ในตลาดหุ้นไทยต้องใจกล้าพอสมควร เพราะดัชนีหลังจากลงมาอย่างไม่เป็นท่าแล้ว เหล่าบรรดากูรูที่แมงเม้าท์คุยมา ต่างบอกจะมีการย่ำฐานแบบผันผวนซักพัก อาจจะมีการกระชากขึ้นไปแถว 1340 บ้าง แต่ก็จะมีแรงขายเพราะยังมีเรื่องราวที่ไม่สู้ดีอยู่ข้างหน้าของสหรับ นั้นคือ QE และ เพดานหนี้สหรัฐ
ถ้าใครทนไม่ไหวก็อาจจะยอม แต่ถ้าทนได้ จะบอกให้จุดแถวๆ 1250-1300 จุด เป็นจุดที่ใครหลายคนเค้าเริ่มทยอยเข้าไปแล้ว แม้กระทั่งคุณวิชัย ทองแตง ที่ออกมาบอกว่าหุ้นลงตอนนี้เป้ฯโอกาสที่ดีที่สุด แถมจะหาเรื่องเอากำไรหลายๆเท่า
ช่วงนี้เหมาะเหม็งกับเฟ้นหาหุ้นดีๆ จะเข้าเลยก็ได้ หรือ จะรอจังหวะ เพราะระยะยาวมีต่างชาติจากสิงคโปร์กระซิบบอกว่ามีโอกาสอีกมาก ฉะนั้นถ้าเป็นพวกชอบมองมูลค่าพื้นฐานตอนนี้พอที่จะยิ้มได้ ทั้งอสังหาฯ สื่อสาร รับเหมา เค้าว่าโอเช ยกเว้นถ้าหลุด 1250 จุด ก็อาจจะเจอแรงเทขายตามน้ำกันอีกรอบค่อยไปหาฐานใหม่แล้วกัน แต่เค้าว่าถ้ามีแพนิคอีกรอบให้จัดเต็มเลยคราวนี้
ดังนั้นสัปดาห์นี้ต้องมาดูกันว่า หุ้นไทยจะกลับขึ้นเจอแนวต้าน 1340 จุด ได้หรือไม่ และ 1260 จุดซึ่งเป็นราคาต่ำสุดครั้งก่อนจะหลุดหรือไม่
บล.กสิกรไทย และบริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ที่ 2-6 ก.ย.ว่า ดัชนียังคงผันผวน โดยที่มีโอกาสฟื้นตัวขึ้น ขณะที่ต้องติดตามข้อมูลภาคการผลิตในยูโรโซนและจีน รวมทั้งรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ อาทิ การใช้จ่ายผู้บริโภค เครื่องชี้ภาคการผลิต(ISM Manufacturing) รายงานสภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) เครื่องชี้ภาคบริการ (ISM Non-Manufacturing) และการจ้างงานนอกภาคการเกษตร คาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 1,260 และ 1,247 ขณะที่แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 1,328 และ 1,370 ตามลำดับ
ขณะที่ นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บล.บัวหลวง มองแนวโน้ม ตลาดฯยังอยู่ในทิศทางฟื้นตัวขึ้นไปเหนือระดับ 1,300 จุดได้ เนื่องจาก dividend และ P/E เริ่มส่งสัญญาณที่ดีออกมา เมื่อตลาดอยู่ในระดับ 1,250-1,270 จุดยังไม่ใช่ช่วงที่จะขายออกมา พร้อมให้แนวรับที่ 1,260 จุด และแนวต้าน 1,330 จุด
ช่วงนี้บอกตามตรงใครยังลงทุนอยู่ในตลาดหุ้นไทยต้องใจกล้าพอสมควร เพราะดัชนีหลังจากลงมาอย่างไม่เป็นท่าแล้ว เหล่าบรรดากูรูที่แมงเม้าท์คุยมา ต่างบอกจะมีการย่ำฐานแบบผันผวนซักพัก อาจจะมีการกระชากขึ้นไปแถว 1340 บ้าง แต่ก็จะมีแรงขายเพราะยังมีเรื่องราวที่ไม่สู้ดีอยู่ข้างหน้าของสหรับ นั้นคือ QE และ เพดานหนี้สหรัฐ
ถ้าใครทนไม่ไหวก็อาจจะยอม แต่ถ้าทนได้ จะบอกให้จุดแถวๆ 1250-1300 จุด เป็นจุดที่ใครหลายคนเค้าเริ่มทยอยเข้าไปแล้ว แม้กระทั่งคุณวิชัย ทองแตง ที่ออกมาบอกว่าหุ้นลงตอนนี้เป้ฯโอกาสที่ดีที่สุด แถมจะหาเรื่องเอากำไรหลายๆเท่า
ช่วงนี้เหมาะเหม็งกับเฟ้นหาหุ้นดีๆ จะเข้าเลยก็ได้ หรือ จะรอจังหวะ เพราะระยะยาวมีต่างชาติจากสิงคโปร์กระซิบบอกว่ามีโอกาสอีกมาก ฉะนั้นถ้าเป็นพวกชอบมองมูลค่าพื้นฐานตอนนี้พอที่จะยิ้มได้ ทั้งอสังหาฯ สื่อสาร รับเหมา เค้าว่าโอเช ยกเว้นถ้าหลุด 1250 จุด ก็อาจจะเจอแรงเทขายตามน้ำกันอีกรอบค่อยไปหาฐานใหม่แล้วกัน แต่เค้าว่าถ้ามีแพนิคอีกรอบให้จัดเต็มเลยคราวนี้
ดังนั้นสัปดาห์นี้ต้องมาดูกันว่า หุ้นไทยจะกลับขึ้นเจอแนวต้าน 1340 จุด ได้หรือไม่ และ 1260 จุดซึ่งเป็นราคาต่ำสุดครั้งก่อนจะหลุดหรือไม่
บล.กสิกรไทย และบริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ที่ 2-6 ก.ย.ว่า ดัชนียังคงผันผวน โดยที่มีโอกาสฟื้นตัวขึ้น ขณะที่ต้องติดตามข้อมูลภาคการผลิตในยูโรโซนและจีน รวมทั้งรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ อาทิ การใช้จ่ายผู้บริโภค เครื่องชี้ภาคการผลิต(ISM Manufacturing) รายงานสภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) เครื่องชี้ภาคบริการ (ISM Non-Manufacturing) และการจ้างงานนอกภาคการเกษตร คาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 1,260 และ 1,247 ขณะที่แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 1,328 และ 1,370 ตามลำดับ
ขณะที่ นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บล.บัวหลวง มองแนวโน้ม ตลาดฯยังอยู่ในทิศทางฟื้นตัวขึ้นไปเหนือระดับ 1,300 จุดได้ เนื่องจาก dividend และ P/E เริ่มส่งสัญญาณที่ดีออกมา เมื่อตลาดอยู่ในระดับ 1,250-1,270 จุดยังไม่ใช่ช่วงที่จะขายออกมา พร้อมให้แนวรับที่ 1,260 จุด และแนวต้าน 1,330 จุด
