“ชัชชาติ” ดันไทยศูนย์กลางอุตสาหกรรมการบิน AEC ชี้ในอีก 6 ปี ตลาดด้านซ่อมบำรุงอากาศยานทั่วโลกมูลค่ากว่า 63 พันล้านเหรียญ และภายใน 20 ปีจะมีความต้องการนักบินกว่า 1.8 แสนคน ช่างเทคนิคกว่า 2.4 แสนคน มั่นใจจุดแข็งที่ตั้งและแรงงานของไทยสู้ไหว แม้ตอนนี้จะตามหลังมาเลเซียกว่า 10 ปี
วันนี้ (23 ส.ค.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางไปเปิดงานที่วิทยาลัยการบินนานาชาติ มหาวิทยาลัยนครพนม เกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมของสถาบันอุดมศึกษาด้านบุคลากรเพื่อการเข้าสู่ธุรกิจการบินในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยเห็นว่าอุตสาหกรรมการบิน (Aviation Industry) มีองค์ประกอบ 3 ส่วนหลักๆ คือ 1) ด้านการผลิต (manufacturing) ผลิตชิ้นส่วน อะไหล่ เครื่องยนต์ จนถึงตัวเครื่องบิน 2) ด้านการซ่อมบำรุง (MRO Maintenance Repair Overhaul) การบำรุงรักษา ซ่อมย่อย ซ่อมใหญ่ 3) ด้านการฝึกอบรม (training) นักบิน ช่างซ่อม บุคลากรที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมการบินเป็นธุรกิจที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจค่อนข้างสูง เช่น งานซ่อมบำรุง (MRO) มีการคาดการณ์ว่าในปี 2019 ตลาดทั่วโลกจะมีมูลค่าถึง 63 พันล้านเหรียญสหรัฐ และในช่วง 20 ปีข้างหน้าเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะมีความต้องการนักบินเพิ่มอีก 185,000 คน ช่างเทคนิคอีกถึง 243,500 คน
โดยเห็นว่าในอนาคตหากประเทศไทยมีการวางแผนที่ดีและมีการผลักดันอย่างเข้มแข็ง อุตสาหกรรมการบินจะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ (growth engine) ของประเทศที่สำคัญ และสามารถต่อยอดจากอุตสาหกรรมรถยนต์ในปัจจุบัน แต่ที่ผ่านมายังไม่มีการวางยุทธศาสตร์เรื่องนี้อย่างจริงจัง ขณะที่ประเทศมาเลเซียเริ่มดำเนินการในเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2540 ทำให้ขณะนี้มีความก้าวหน้ากว่าไทยไปมากแล้ว แต่เชื่อว่าไทยมีจุดแข็งทั้งด้านที่ตั้งที่เป็นศูนย์กลางและแรงงานฝีมือ จึงยังสามารถสู้ประเทศอื่นได้ โดยเร่งสร้างยุทธศาสตร์เพื่อขับเคลื่อนและความชัดเจนจากภาครัฐ
“ท่านนายกฯ ได้มีนโยบายผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมการบินอย่างเต็มที่ โดยได้ตั้งคณะทำงาน มีผมเป็นหัวหน้าทีม และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วย เช่น คมนาคม อุตสาหกรรม BOI สถาบันการศึกษาต่างๆ ร่วมกันกำหนดยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการ เพื่อให้เราเป็นหนึ่งในผู้นำของภูมิภาคให้ได้” นายชัชชาติกล่าว
