เครือข่ายประชาชนเจ้าของพลังงานนัดกลุ่มคัดค้านขึ้นราคาแอลพีจี 1 ก.ย. รวมพลหน้าตึก ปตท.สำนักงานใหญ่วิภาวดี คาดนับพันคนมาแน่.... ลั่นชุมนุมบ่าย 3 ถึง 3 ทุ่มเท่านั้น แต่หากรัฐยังดันทุรังไม่ทบทวนเตรียมกลับมาใหม่อีกรอบแน่ ขณะที่ ก.พลังงานยังเดินหน้าแจงมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย 7.7 ล้านรายให้ใช้สิทธิ์ราคาเดิม พร้อมซักซ้อมแผนพรุ่งนี้
นายอิฐบูณณ์ อ้นวงษา หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยว่า เครือข่ายประชาชนเจ้าของพลังงานจะจัดกิจกรรมเพื่อรณรงค์ “หยุดราคาแก๊สและน้ำมันที่ไม่เป็นธรรม” วันที่ 23 ส.ค.นี้ ที่หน้าสำนักงานใหญ่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะเชิญผู้ที่สนใจทุกส่วนเข้าร่วม โดยเบื้องต้นคาดว่าจะมีผู้สนใจเดินทางมาประมาณ 1,000 คนเป็นอย่างต่ำ รวมถึงจะเปิดเวทีสัมนนาเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานมาให้ข้อมูลที่ถูกต้องถึงโครงสร้างราคาแอลพีจี อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวครั้งนี้จะเริ่มตั้งแต่เวลา 15.00 น. จนถึงเวลา 21.00 น.เท่านั้น
“การเคลื่อนไหวครั้งนี้จะมีการยื่นหนังสือคัดค้านการขึ้นแอลพีจีต่อกระทรวงพลังงาน ส่วนจะรับหรือไม่รับก็แล้วแต่ โดยยืนยันว่าการขึ้นราคาดังกล่าวไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคทั้งภาพรวม ไม่ใช่วิธีการบริหารที่ถูกต้อง และหากกระทรวงพลังงานยังเดินหน้าขึ้นราคาแอลพีจีครัวเรือนจาก 18.13 บาทต่อกิโลกรัมเป็น 24.82 บาทต่อ กก. โดยเริ่มวันที่ 1 ก.ย.นี้เราจะกลับมาเคลื่อนไหวคัดค้านอีกครั้งหนึ่งแน่นอน อย่างไรก็ตาม ทางเครือข่ายได้ประสานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะดูแลความปลอดภัยภาพรวมแล้ว ซึ่งเราจะพยายามให้กระทบต่อการจราจรน้อยสุดและจะไม่มีความรุนแรงใดๆ” นายอิฐบูรณ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ บมจ.ปตท. รวมไปถึงสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ซึ่งมีที่ตั้งอยู่จุดเดียวกับ ปตท. ได้มีการส่งอีเมลแจ้งพนักงานให้ได้รับทราบถึงสถานการณ์ โดยจะปิดประตูหน้าถนนวิภาวดีช่วงบ่าย ขอให้พนักงานอยู่ในความสงบไม่ปฏิบัติตัวอะไรที่จะทำให้เกิดการยั่วยุต่อผู้ชุมนุม ใครมีภารกิจนัดลูกค้าให้ยกเลิกไปทั้งหมดก่อน ซึ่งล่าสุดเดิมจะมีการประชุมคณะกรรมการบริหาร บมจ.ปตท. (บอร์ด ปตท.) ในวันดังกล่าว ล่าสุดได้แจ้งเลื่อนไปเป็นวันที่ 6 มิ.ย.แทน
นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า กระทรวงพลังงานยังคงดำเนินกิจกรรมต่างๆ ที่จะเตรียมพร้อมเพื่อปรับราคาแอลพีจี 1 ก.ย.ตามนโยบายรัฐบาล โดยล่าสุดทาง สนพ.ได้ลงพื้นที่จังหวัดสระบุรี มีการจัดกิจกรรม สัมมนา “ปรับราคาก๊าซ LPG ก้าวที่กล้าพลังงานไทย” ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการในการขึ้นราคาแอลพีจี และแนวทางการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและร้านค้าหาบเร่ แผงลอยอาหารกว่า 7.7 ล้านรายให้ได้รับสิทธิ์ในการซื้อก๊าซราคาเดิม รวมทั้งแจงความพร้อมของระบบเอสเอ็มเอส (SMS) ที่ประชาชนที่มีข้อสงสัยสามารถโทร.เข้ามาสอบถามเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ ได้
รายงานข่าวแจ้งว่า กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) จะมีการซักซ้อมแผนการใช้สิทธิ์การซื้อแอลพีจีภาคครัวเรือนกับทุกภาคส่วน โดยทาง ธพ.ได้เชิญ รมว.พลังงานมาเป็นประธานด้วย
นายชายน้อย เผื่อนโกสุม รักษาการผู้อำนวยการสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (สบพ.) กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับกลุ่มโรงกลั่นน้ำมันเมื่อวันที่ 22 ส.ค.ว่า จากกรณีฟ้าผ่าโรงแยกก๊าซที่ 5 ของ ปตท. ล่าสุดได้หารือร่วมกับกลุ่มโรงกลั่นเพื่อหาแนวทางเพิ่มการผลิตแอลพีจีเพื่อลดการนำเข้านั้นจะทำได้ 2 แนวทาง โดยการเพิ่มการผลิตจากการปรับเปลี่ยนน้ำมันดิบซึ่งคาดว่าจะเพิ่มได้ราว 1,000-4,000 ตันต่อเดือน และการปรับกระบวนการผลิตที่จะดึงมาจากอุตสาหกรรมปิโตรเคมีอีกราว 20,000 ตัน ดังนั้นหากดำเนินการได้ก็จะลดการนำเข้าแอลพีจีได้อย่างมากหรืออาจจะไม่จำเป็นต้องนำเข้าเลยก็เป็นไปได้ และยืนยันว่าจะไม่กระทบต่อแอลพีจีภาคครัวเรือนและขนส่งแต่อย่างใด
นายสุรงค์ บูลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โรงกลั่นแต่ละแห่งรวมถึงอุตสาหกรรมปิโตรเคมีจะต้องกลับไปดูรายละเอียดถึงแนวทางดำเนินการ ซึ่งก็จะพยายามทำให้ได้มากที่สุดเพื่อไม่ให้กระทบต่อการนำเข้าเพิ่ม โดยเดิมประเมินว่าอาจจะนำเข้าถึง 4 หมื่นตันจากการหารือคงไม่ถึง โดยเดือน ส.ค.นี้มีการนำเข้าแอลพีจี 1.4-1.45 แสนตัน ซึ่งราคาแอลพีจีขณะนี้เฉลี่ยที่ 820 เหรียญต่อตัน