คุณแม่ผัน - คำผัน สุวรรณศาลา และคุณแม่ปุก – กมลา ทองกร คุณแม่ทั้งสองคนของ น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ แชมป์แบดมินตันโลกคนล่าสุด ผู้ผลักดันน้องเมย์เป็นนักแบดมินตันตั้งแต่อายุ 5 ขวบ และอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของน้องเมย์ตลอดมา รับ รางวัล“คุณค่าแห่งรักแบรนด์รังนกแท้” โดยบริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อเชิดชูเกียรติ และเทิดทูนความรัก การเสียสละ และการทุ่มเทอันยิ่งใหญ่ให้กับลูก ณ ห้องเทอร์คอยส์ โรงแรมดิ เอทัส ลุมพินี เมื่อเร็ว ๆ นี้
• กรุงศรีเปิดตัว ‘Krungsri’ โมบาย แอพพลิเคชั่น ฟอร์ไอแพด
นายฟิลิป แทน (กลาง) กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ได้เปิดตัว ‘Krungsri’ โมบาย แอพพลิเคชั่น ฟอร์ไอแพด ธนาคารบนไอแพดที่มอบประสบการณ์ใหม่ในการทำธุรกรรมทางการเงินทุกที่ทุกเวลา ต่อยอดความสำเร็จจาก ‘Krungsri’ โมบาย แอพพลิเคชั่น แอพพลิเคชั่นทางการเงินที่ดี ที่การันตีด้วยรางวัลระดับภูมิภาคถึง 2 รางวัล ที่ออกมา ตอกย้ำแนวคิดทางการตลาด ‘กรุงศรี เรื่องเงิน เรื่องง่าย’ โดยกรุงศรีตั้งเป้าเป็นผู้นำการให้บริการทางการเงินแบบดิจิตอลด้วยนวัตกรรมสมัยใหม่
‘Krungsri’ โมบาย แอพพลิเคชั่น ฟอร์ไอแพด รองรับการใช้งานของ iPad ทุกรุ่น ทั้ง iPad Generation 1 – 4 และ iPad Mini โดยลูกค้าสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นจาก App Store ได้แล้ววันนี้ เพียงค้นหาคำว่า “Krungsri”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ Krungsri Call Center 1572 หรือ www.facebook.com/KrungsriSimple
• บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ได้รับการรับรอง ระบบบริหารความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศISO 27001:2005ทุกสาขา ทั่วประเทศ
บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ได้รับการรับรองมาตรฐานระบบบริหารความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ ISO / IEC 27001:2005 ทุกสาขาทั่วประเทศ
บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด เป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายแห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 มีสาขาให้บริการแก่ประชาชนทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยเมื่อมีผู้ประสบภัยจากรถ จะได้รับการชดเชยค่าเสียหาย และได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน ไม่ว่าผู้ประสบภัยจะเป็นใคร อยู่ที่ไหน ในหรือนอกรถ เจ้าของรถ คนเดินถนน หากได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุที่เกิดจากรถก็จะได้รับความคุ้มครองทุกคน
บริษัทกลางฯ มีสาขาให้บริการทุกจังหวัดทั่วประเทศ จึงได้มีการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้มีมาตรฐานสากลจนได้รับมอบใบรับรองมาตรฐานระบบบริหารความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (Information Security Management System-ISMS) ISO / IEC 27001:2005 จากสถาบัน UKAS ประเทศอังกฤษ โดยมีบริษัท เอสจีเอส(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ตรวจประเมิน ภายใต้ขอบเขต ระบบโครงสร้างพื้นฐานของระบบงานบริการหลักขององค์กร อันได้แก่ ระบบรับประกันภัย(e-Policy) ระบบสินไหมอัตโนมัติ (e-Claim) และระบบจัดการสินไหม (Claim Online) ซึ่งเป็นการได้รับใบรับรองระบบมาตรฐานต่อจากใบรับรองระบบบริหารคุณภาพ ISO 9001:2008 ที่บริษัทได้มาแล้วก่อนหน้านี้ โดยการได้รับการรับรองระบบบริหารความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศของบริษัทฯ จะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนผู้ประสบภัยจากรถให้ได้รับความสะดวกรวดเร็วในการให้บริการผู้ประสบภัยด้วยมาตรฐานสากลเดียวกันทุกสาขาของบริษัทกลางฯ ทั่วประเทศ
การได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 27001 เป็นเป้าหมายสำคัญ ที่บริษัทกลางฯ มุ่งเน้นในการพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง โดยการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัย เข้ามาใช้เพิ่มประสิทธิภาพประสิทธิผลในการดำเนินงาน การให้บริการประชาชน ผู้ประสบภัย สถานพยาบาลทั่วประเทศ ตัวแทนนายหน้า บริษัทประกันภัย สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ธนาคาร เคาน์เตอร์เซอร์วิส และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิด ความเชื่อมั่นในการทำงานบนระบบสารสนเทศของบริษัทฯ ที่จะได้รับการปกป้องข้อมูล ให้สามารถเข้าถึงได้อย่างปลอดภัย มีมาตรฐานการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ สร้างความมั่นใจได้ว่าทุกระบบจะสามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง หากเกิดภัยพิบัติฉุกเฉินขึ้นก็มีแผนสำรองฉุกเฉินรองรับ สามารถเปิดใช้ศูนย์สำรองได้ทันทีโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้จะเป็นการช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้การขับเคลื่อนภารกิจของบริษัทฯ บนโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่มีอยู่ในปัจจุบันและส่วนขยายเพิ่มเติมในอนาคต เป็นไปอย่างมั่นคงปลอดภัย คุ้มค่าและยังสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการสนับสนุนธุรกิจประกันภัย ในการใช้ประโยชน์ร่วมกันในช่องทางที่บริษัทกลางฯ มีความเข้มแข็ง รวมไปถึงการเป็นเครื่องมือสนับสนุนภาครัฐในการขับเคลื่อนนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้อีกทางหนึ่ง
• “Gcap Gold ชวนคนหน้าตาดี โพสต์รูปคู่ Eazy Street Team ลุ้นรับทองคา 2 สลึง”
จีแคป โกลด์ ซื้อขายทองคาแท่ง ชวนคนหน้าตาดี ร่วมสนุกกับกิจกรรม “EAZY SOUND Of GOLD By GCAP GOLD” ง่าย ๆ เพียงแค่ถ่ายรูปคู่กับขบวนคาราวาน Easy Street Team จาก Eazy FM 105.5 และโพสต์ลง เฟสบุคจีแคป รูปไหนเริ่ดสุด รับไปเลยทองคาแท่งหนัก 2 สลึง หมดเขตร่วมสนุกสิ้นเดือนสิงหาคม 2556 นี้เท่านั้น รีบๆกันหน่อยนะคะ
• เฉลิมพระเกียรติ 12 สิงหา
บริษัท ไวส แอนด์ ริช จำกัด ออกบูธที่ภูเก็ตต้อนรับวันแม่ 8 - 21 สิงหาคมนี้ ขอเชิญชวนพี่น้องชาวภูเก็ตและนักท่องเที่ยวแวะชมนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติและนาฬิกาไทยแลนด์ที่เซ็นทรัลภูเก็ต ชั้น2 โซนธนาคาร โทร 02-551-4405, 02-551-4480 โดยรายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายจะถวายมูลนิธิพระดาบสในพระบรมราชูปถัมภ์
• ไทยคมผู้นำธุรกิจดาวเทียมโต 232% เดินหน้าทำกำไรครึ่งปีแรก 521 ล้านบาท
บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) (“THCOM”) ผู้นำธุรกิจดาวเทียมแห่งเอเชีย ประกาศผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกของปี 2556 มีกำไรสุทธิ 521 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้น 232% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ผลกำไรของงบเฉพาะกิจการส่วนใหญ่มาจากการขยายตัวของบริการดาวเทียมซึ่งเป็นพอร์ตหลักของบริษัท โดยมีตัวเลขเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 371 ล้านบาท จาก 130 ล้านบาท เมื่อเทียบกับผลประกอบการ ณ ครึ่งแรกของปี 2555
“ไตรมาสที่ 2/2556 เป็นช่วงเวลาครบ 2 ปีเต็มของการเดินหน้าทำกำไรอย่างต่อเนื่อง” นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าว “ผลการดำเนินงานที่มีกำไรเพิ่มขึ้นนี้ มาจากการกำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจและการตลาดที่ชัดเจน โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อเพิ่มรายได้จากการทำตลาดในธุรกิจดาวเทียมทั้งบรอดคาสท์และบรอดแบนด์ อีกทั้งเป็นผลมาจากการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ ความสำเร็จด้านการเงินที่เกิดขึ้นดังกล่าวเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะสนับสนุนทิศทางการดำเนินธุรกิจดาวเทียมของไทยคม บริษัทยังคงเดินหน้ากลยุทธ์เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนต่อไป โดยได้เตรียมการสำหรับดาวเทียมดวงใหม่ ๆ ที่จะมารองรับความต้องการใช้บริการในอนาคตแล้ว”
รายได้จากการให้บริการดาวเทียมซึ่งเป็นบริการหลักของบริษัท ในครึ่งแรกของปี 2556 เพิ่มเป็น 3.13 พันล้านบาท (จาก 3.07 พันล้านบาท เมื่อครึ่งปีแรกของปี 2555) ขณะที่กำไรสุทธิของผลการดำเนินงานของงบเฉพาะกิจการ เพิ่มขึ้นเป็น 13% ในครึ่งปีแรกของปี 2556 (จาก 5% ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2555)
“ความสำเร็จของผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกนี้ เกิดจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นของการให้บริการดาวเทียมไทยคม 4 (ไอพีสตาร์) ที่มีการต่ออายุสัญญาเช่าใช้บริการกับลูกค้าหลักหลายราย ตั้งแต่ต้นปี 2556 ซึ่งส่งผลให้บริษัทเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ไทยคมมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการให้บริการแบนด์วิธในต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย และมาเลเซีย รวมถึงรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการให้บริการเสริมต่าง ๆ ของดาวเทียมไทยคม 5 ที่ช่วยสนับสนุนการสร้างกำไรในครึ่งปีแรกของปี 2556 ได้เป็นอย่างดี” นางศุภจีอธิบาย
สำหรับการเติบโตในด้านอื่น ๆ ของบริษัทในอีก 12 เดือนข้างหน้า จะรวมถึงแผนการจัดส่งดาวเทียมดวงใหม่ คือ ดาวเทียมไทยคม 6 และดาวเทียมไทยคม 7 โดยดาวเทียมไทยคม 6 ประสบความสำเร็จในการขายช่องสัญญาณล่วงหน้าไปแล้วกว่า 66% ซึ่งช่วยเสริมศักยภาพในการรองรับความต้องการใช้บริการสัญญาณดาวเทียมที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาค และช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งในการตอกย้ำ ความเป็นดาวเทียม Hotbird ที่ตำแหน่ง 78.5 องศาตะวันออกของบริษัทต่อไป ส่วนดาวเทียมไทยคม 7 ซึ่งมีแผนการปล่อยขึ้นสู่วงโคจรในปี 2557 จะเป็นการเพิ่มศักยภาพการให้บริการช่องสัญญาณและขยายตลาดของบริษัทฯ ให้ครอบคลุมทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
“ไทยคมให้ความสำคัญสูงสุดกับธุรกิจของลูกค้า ซึ่งมีความต้องการและพร้อมที่จะใช้บริการช่องสัญญาณเพิ่มมากขึ้น ในเวลาอันรวดเร็ว ลูกค้าหลายรายมีศักยภาพในการผลิตและจัดหารายการเพื่อออกอากาศได้ทันที ดังนั้นเราจึงจัดหาดาวเทียมมาให้บริการแก่ลูกค้าเป็นการชั่วคราวก่อนการส่งดาวเทียมไทยคม 6 ซึ่งขณะนี้ดาวเทียมดังกล่าวได้เริ่มให้บริการแล้วตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยเป็นบริการที่อยู่ในช่วงส่งผ่านไปสู่การใช้งานดาวเทียมไทยคม 6 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งมีกำหนดส่งขึ้นสู่วงโคจรตำแหน่ง 78.5 องศาตะวันออกอย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายนนี้” นางศุภจี กล่าวเพิ่มเติม
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในเครือไทยคมนั้น ด้านบริการอินเตอร์เน็ตและสื่อ โดยบริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟจำกัด (มหาชน) (“CSL”) มีผลการดำเนินงานที่เติบโตต่อเนื่องเช่นกัน โดยมีผลกำไรสุทธิ 261 ล้านบาท รายได้ส่วนใหญ่ยังคงเป็นรายได้จากการให้บริการอินเตอร์เน็ตและบริการไอซีที ด้านบริษัท ดีทีวี เซอร์วิส จำกัด ยังคงเดินหน้าเป็นผู้นำเทคโนโลยีในการสร้างตลาด HDTV และ MPEG4 S2 ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมต่อไป บริษัทยังคงสร้างตลาดในอาเซียน อาทิ ลาวโทรคมนาคม ผู้ให้บริการระบบโทรคมนาคมในประเทศลาว ซึ่งให้บริการโทรศัพท์ด้วยส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 และโครงข่ายประสิทธิภาพที่ครอบคลุมทั่วประเทศ
• ซีเอส ล็อกซอินโฟ มีกำไรครึ่งปีแรก - 260 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.44 บาทต่อหุ้น
บริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน) มีกำไรสุทธิรวมสำหรับไตรมาส 2/2556 เท่ากับ 114 ล้านบาท หรือ 0.19 บาท/หุ้นส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรรวมสำหรับครึ่งปีแรกปี 2556 เท่ากับ 260 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.44 บาท/หุ้น แบ่งเป็น กำไรจากการดำเนินงาน จำนวน 237 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31 ล้านบาท หรือร้อยละ15 จากครึ่งปีก่อน (จำนวน 206 ล้านบาท) เนื่องจากการรับรู้ ผลประกอบการจากธุรกิจสมุดหน้าเหลืองเต็มหกเดือน (ในขณะที่ครึ่งปีก่อน บริษัทรับรู้ ผลประกอบการจากธุรกิจสมุดหน้าเหลืองเพียง 2.5 เดือน ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากวิกฤตการณ์น้ำท่วมในช่วงสิ้นปี 2554 ส่งผลให้ทางบริษัทต้องเลื่อนการรับรู้ รายได้ และต้นทุนการจัดพิมพ์สมุดหน้าเหลืองไปเป็นเดือนพฤษภาคม (จากเดิมรับรู้ตั้งแต่เดือนมกราคม) เพื่อให้สอดคล้องกับอายุการใช้งานของสมุดหน้าเหลือง) กำไรจากรายการพิเศษ (สุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายทางภาษี) จำนวน 23 ล้านบาท จากส่วนลดค่าเช่าเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ผ่านมาระหว่างบริษัทกับผู้ให้บริการ
ในขณะที่ กำไรจากการดำเนินงานในครึ่งปีแรกของงบการเงินเฉพาะกิจการเท่ากับ 217 ล้านบาท หรือ 0.37 บาท/หุ้น ซึ่งใกล้เคียงกับครึ่งปีก่อน 216 ล้านบาท) ดังนั้น ในวันที่ 8 สิงหาคม 2556 คณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีมติจ่ายปันผลระหว่างกาลปี 2556 จำนวน 0.35 บาทต่อหุ้นหรือคิดเป็นร้อยละ 96 ของผลการดำเนินงานจากงบการเงินเฉพาะกิจการ ในครึ่ งปี 2556 สำหรับแนวโน้มในครึ่งปีหลัง บริษัทยังคงสานต่อทิศทางการดำเนินธุรกิจ เช่นเดียวกับครึ่งปีแรก โดยทางด้านธุรกิจอินเทอร์เน็ต จะเน้นกลุ่มบริการ ICT Service และ cloud computing ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนด้านธุรกิจ voice & mobile จะเน้นการเติบโตของรายได้ ค่าบริการสมาชิก ผ่านการเติบโตของจำนวนผู้ใช้บริการ โดยการเพิ่มบริการที่หลากหลายมากขึ้น อาทิเช่น การให้บริการส่ง SMS ข่าวบันเทิง ตลอดจนการเพิ่มบริการบน smart phone ให้มากขึ้น
ส่วนด้านธุรกิจโฆษณาสมุดหน้าเหลือง เนื่องจากรายได้จากการขายโฆษณาในสมุดหน้าเหลือง ยังคงมีแนวโน้ม
ลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการลดขนาดช่องโฆษณาและผู้ลงโฆษณาส่วนใหญ่ หันไปลงโฆษณาในสื่อออนไลน์ (ที่มีราคาต่ำกว่า) เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทจึงมีแผน ที่จะจัดพิมพ์และแจกจ่ายวารสารใหม่ ๆ แบบเจาะเฉพาะกลุ่มมากขึ้น อาทิเช่น “FixGang (ช่างด่วน)” “Fashion & Accessories Guide” “Builder Guide” “Factory Supply Guide” เพื่อชดเชยรายได้จากการขายโฆษณาในสมุดหน้าเหลืองที่ลดลง ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สอดคล้องกับรายได้ที่ลดลง