“ยรรยง” ฉุนผู้ส่งออก โจมตีรัฐไม่เปิดประมูลข้าว แอบขายลับๆ ขายข้าวไม่มีคุณภาพ แต่พอเปิดประมูลกลับไม่มีใครเข้าร่วม เล็งเอาคืน งัด พ.ร.บ.ข้าวตรวจสต๊อก เผยใครสต๊อกไม่ถึง 500 ตันเจอทั้งจำทั้งปรับ ยันตั้งเป้าส่งออกข้าว 8.5 ล้านตันเหมือนเดิม ไม่สนเอกชนบอกไทยเสียแชมป์ ด้านผู้ส่งออกพร้อมให้ความร่วมมือ
นายยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์จะทำการตรวจสอบสต๊อกผู้ส่งออกข้าวประมาณ 200 รายทั่วประเทศ เพราะ พ.ร.บ.การค้าข้าวกำหนดให้ทุกรายต้องสต๊อกข้าวสารไว้ไม่ต่ำกว่า 500 ตัน หากผู้ส่งออกไม่ปฏิบัติตาม จะมีโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจถูกเพิกถอนใบอนุญาตในการส่งออกข้าว เพราะเป้าหมายของการให้คงสต๊อกไว้ต้องการให้ผู้ส่งออกสำรองข้าวในการดำเนินธุรกิจ และช่วยซื้อข้าวในตลาดมาเก็บไว้เพื่อช่วยรักษาระดับราคา
“จะออกตรวจสอบสต๊อกข้าวของผู้ส่งออกทันที ยกเว้นกลุ่มที่ค้าขายชายแดน สหกรณ์ และหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่ได้รับการยกเว้น จึงอยากแนะนำให้ผู้ส่งออกรีบหาข้าวมาเก็บไว้ในสต๊อกตามที่กฎหมายกำหนด โดยคาดว่าหากผู้ส่งออกประมาณ 200 รายมีสต๊อกข้าวรายละ 500 ตัน ก็จะทำให้มีการซื้อข้าวเพิ่มรวมกันไม่ต่ำกว่า 100,000 ตัน ซึ่งช่วยยกระดับราคาข้าวให้กับชาวนาได้”
สำหรับสาเหตุที่จะต้องตรวจสอบสต๊อกของผู้ส่งออก เป็นเพราะผู้ส่งออกบางรายมักจะโจมตีรัฐบาลว่าไม่เปิดประมูลข้าวในสต๊อกรัฐบาล ทำให้ไม่มีข้าวไปส่งออกจนเสียออเดอร์ และยังกล่าวว่ารัฐบาลมักเปิดขายแบบลับๆ ไม่ได้เปิดประมูลเป็นการทั่วไป แต่เมื่อรัฐบาลเปิดประมูลแล้ว 2 ครั้งเมื่อวันที่ 26 และ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา กลับมีผู้ส่งออกเข้าร่วมประมูลไม่มากนัก และมักจะเป็นรายเดิมๆ แต่ผู้ที่โจมตีรัฐบาลไม่ยอมเข้าร่วมแต่อย่างใด
“การที่ผู้ส่งออกส่วนใหญ่ไม่เข้าร่วมการประมูลข้าว อาจหมายถึงว่ามีข้าวในสต๊อกครบ 500 ตัน จึงไม่จำเป็นต้องประมูลซื้อข้าวรัฐไปส่งออก หรือถ้าอ้างว่าไม่เข้าร่วมเพราะข้าวรัฐคุณภาพต่ำ ก็ไม่เห็นคนที่พูดไปตรวจสอบคลังสินค้าสักราย แล้วจะโจมตีรัฐบาลทำไมว่าขายให้แต่รายใหญ่ หรือไม่เปิดประมูล เพราะการประมูลทั้ง 2 ครั้งพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีผู้ส่งออกต้องการไม่กี่ราย และถ้ามีข้าวครบ ก็ไม่ต้องกลัวการตรวจสต๊อกของกระทรวงพาณิชย์” นายยรรยงกล่าว
สำหรับเป้าหมายการส่งออกข้าวในปีนี้ยังคงตั้งไว้ที่ 8.5 ล้านตัน สูงกว่าเป้าของเอกชน โดยจากนี้ไปมีแผนที่จะเดินทางไปโรดโชว์เพื่อขายข้าวกับประเทศต่างๆ และจะเพิ่มการขายข้าวในรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ให้มากขึ้น มีเป้าหมายที่จีน เกาหลี และอิรัก ขณะเดียวกัน จะเร่งระบายข้าวผ่านตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (เอเฟต) ด้วย
ด้านนายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ผู้ส่งออกข้าวพร้อมให้กระทรวงพาณิชย์เข้ามาตรวจสอบการสำรองสต๊อกข้าวของภาคเอกชนที่กำหนดให้มีการสำรองข้าวอย่างน้อย 500 ตัน แต่ห่วงผู้ประกอบการข้าวรายเล็กที่อาจมีปัญหาสำรองข้าวไม่ถึง ส่วนรายกลางและรายใหญ่ไม่น่ามีปัญหากับการสำรองสต๊อกข้าวปริมาณดังกล่าว และคงไม่ตอบโต้อะไร ถ้าอยากจะใช้กฎหมายตรวจก็ยินดี ส่วนการระบุไทยจะเสียแชมป์ส่งออกข้าวก็เป็นการให้ข้อเท็จจริง