บีโอไอเผยโครงการลงทุนของคนไทย 100% ในช่วงครึ่งแรกปี 2556 มูลค่าเงินลงทุนสูงถึง 2 แสนล้านบาท ขยายตัว 88% โดยคนไทยแห่ลงทุนมากที่สุดในกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตร บริการ และสาธารณูปโภค
นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ เปิดเผยถึงโครงการลงทุนของคนไทยที่ยื่นขอรับส่งเสริมจากบีโอไอในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2556 (มกราคม-มิถุนายน 2556) ว่า มีโครงการลงทุนที่เป็นของคนไทยเป็นเจ้าของกิจการ 100% ยื่นขอรับส่งเสริมจำนวน 393 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 206,512 ล้านบาท โดยมูลค่าเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 88% เมื่อเทียบกับมูลค่าเงินลงทุนของโครงการลงทุนของคนไทย 100% ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งมีมูลค่า 109,400 ล้านบาท
ขณะที่โครงการร่วมทุนระหว่างนักลงทุนไทยกับนักลงทุนต่างชาติยื่นขอรับส่งเสริมในช่วงครึ่งปีแรกนี้จำนวน 275 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 309,079 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับมูลค่าเงินลงทุนของโครงการร่วมทุนของนักลงทุนไทยและต่างชาติในช่วงเดียวกันของปี 2555 ซึ่งมีมูลค่า 189,400 ล้านบาท พบว่าขยายตัวเพิ่มขึ้น 63%
“การลงทุนกิจการที่เป็นของคนไทย 100% ขยายตัวมากขึ้น โดยส่วนใหญ่เป็นการขอรับส่งเสริมในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโต ทั้งอุตสาหกรรมเกษตร บริการ และสาธารณูปโภค ขณะที่การลงทุนของโครงการร่วมทุนไทยกับต่างชาติที่เพิ่มขึ้นก็สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือกันทางธุรกิจมากยิ่งขึ้น เพราะการที่โครงการลงทุนรายใหม่จากต่างประเทศจะเข้ามาลงทุนในประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นครั้งแรกนั้น หากเข้ามาร่วมทุนกับนักลงทุนเจ้าของประเทศก่อนจะช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าได้รวดเร็วกว่าการมาเริ่มนับหนึ่ง ขณะที่กิจการของคนไทยที่ร่วมทุนกับต่างชาติก็จะได้ประโยชน์จากการถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้ด้านการผลิตเช่นกัน” เลขาธิการบีโอไอกล่าว
สำหรับอุตสาหกรรมที่นักลงทุนไทยยื่นขอรับส่งเสริมและมีมูลค่าเงินลงทุนมากที่สุดในช่วงครึ่งปีแรก 2556 คือการลงทุนในกลุ่มบริการและสาธารณูปโภคจำนวน 119 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 118,540 ล้านบาท ตามด้วยกลุ่มเกษตรกรรม และผลผลิตจากการเกษตรมีจำนวน 183 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 63,697 ล้านบาท และกลุ่มอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ กระดาษ และพลาสติก จำนวน 17 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 10,099 ล้านบาท
ขณะที่การขอรับส่งเสริมของโครงการร่วมทุนระหว่างไทยกับต่างชาติในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการและสาธารณูปโภค จำนวน 66 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 176,222 ล้านบาท ตามด้วยกลุ่มอุตสาหกรรมโลหะ เครื่องจักร ยานยนต์และชิ้นส่วน จำนวน 77 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 83,768 ล้านบาท
