“ชัชชาติ” ตื่นล้อมคอกอุบัติเหตุ! สั่ง ขบ.เพิ่มมาตรฐานคนขับรถบรรทุก

“ชัชชาติ” สั่งกรมการขนส่งฯ ทบทวนข้อกฎหมายคุมมาตรฐานคนขับรถบรรทุกรายงานใน 2 สัปดาห์ เล็งต่อใบขับขี่ทุก 1 ปีแทน 3 ปี ชี้นานเกินไป พร้อมตรวจสภาพร่างกายและสารเสพติด พร้อมให้ดูไปถึงรถเมล์ รถตู้โดยสาร และเรือ หวั่นเกิดเหตุสยองซ้ำรอย สั่งหารือสมาพันธ์รถบรรทุกขอความร่วมมือคัดเลือกคนขับที่มีคุณภาพ  

ช่วงเช้าวันนี้ (24 ก.ค.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรววคมนาคม ได้เรียกผู้บริหารกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) บริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมถึงสาเหตุและมาตรการป้องกันกรณีอุบัติเหตุรถพ่วงสิบแปดล้อชนกับรถโดยสารของ บขส. ที่ถนนมิตรภาพ กม.ที่ 19 ช่วงเช้ามืดวันที่ 23 กรกฎาคมจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 19 ราย และบาดเจ็บ 22 คน โดยนายชัชชาติเปิดเผยว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นพบว่ามาจากคนขับรถบรรทุกหลับใน ซึ่งปัจจุบันรถบรรทุกมีจำนวนมากถึง 8 แสนคัน และเป็นปัญหาสำคัญ ซึ่งได้สั่งการให้กรมการขนส่งฯ ทบทวนกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับรถบรรทุกทั้งหมด เช่น การต่อใบขับขี่ทุก 3 ปีนั้นเหมาะสมหรือไม่ หรือให้มีการตรวจสุขภาพ และสารเสพติดเพิ่มเติม รวมถึงเพิ่มบทลงโทษสำหรับเจ้าของรถ หรือผู้ประกอบการ เพราะถือว่าเป็นผู้คัดเลือกคนขับรถเข้ามา เป็นต้น ส่วนรถโดยสารนั้น ให้กรมการขนส่งฯ ตรวจสอบถึงมาตรฐานวัสดุที่นำมาประกอบด้วยว่า เป็นวัสดุที่ติดไฟง่าย หรือเผาไหม้แล้วทำให้เกิดควันพิษหรือไม่ โดยให้กรมการขนส่งฯ รายงานกลับมาภายใน 2 สัปดาห์ 

“คนขับรถบรรทุกที่เกิดเหตุถือใบอนุญาตขับขี่ประเภท ท 3 (รถพ่วงหรือเทรลเลอร์) ซึ่งจะต่อทุก 3 ปี โดยจะต้องเข้าอบรม 2 ชั่วโมง ส่วนการขับนั้นกฎหมายกำหนดขับ 4 ชั่วโมง พักครึ่งชั่วโมง โดย 1 วันขับได้ไม่เกิน 8 ชั่วโมง ซึ่งขณะนี้ทางสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ศึกษาจุดพักรถบรรทุกอยู่ ซึ่งอาจจะต้องเพิ่มให้มากขึ้นอีก ตอนนี้รถบรรทุกถือว่าเป็นปัญหามากเพราะมีกว่า 8 แสนคัน การควบคุมคนขับทำได้ลำบาก ส่วนหนึ่งผู้ประกอบการหรือเจ้าของต้องร่วมมือด้วย โดยจะต้องคัดกรองคนขับที่มีคุณภาพ ส่วนตัวรถบรรทุกนั้นจะตรวจสอบสภาพปีละ 1 ครั้ง ซึ่งเข้มข้นน้อยกว่ารถโดยสารที่ต้องตรวจสอบสภาพปีละ 2 ครั้ง” นายชัชชาติกล่าว

โดยได้สั่งการให้ทางกรมการขนส่งฯ เชิญผู้ประกอบการและสมาคมรถบรรทุกต่างๆ หารือร่วมกันในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้เพื่อขอความร่วมมือในการเพิ่มมาตรการป้องกันอุบัติเหตุ และรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติม โดยในขณะนี้การควบคุมคนขับรถนั้นจะมีการบันทึกเวลาออกจากต้นทางแต่เป็นระบบ Manual ส่วนกรมการขนส่งฯ มีโครงการอบรมพนักงานขับรถ แต่คนขับรถมีจำนวนน้อย ซึ่งมีแนวคิดในการให้ทหารเกณฑ์ที่ปลดประจำการไปแล้วมาเข้ารับการอบรมเป็นคนขับรถบรรทุก เพราะถือว่าเป็นกลุ่มที่มีวินัยระดับหนึ่งและช่วยสร้างอาชีพให้ด้วย 

นายชัชชาติกล่าวว่า นอกจากนี้ยังให้ตรวจสอบไปถึงมาตรฐานความปลอดภัยของรถเมล์ รถตู้โดยสาร และเรือโดยสารด้วย โดยเฉพาะรถเมล์จากที่ได้ใช้บริการมาพบว่า อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย เช่นตัวตัดกระจกส่วนใหญ่มีไม่ครบตามจำนวนที่กำหนด หรือการเปิดปิดประตูรถจะควบคุมด้วยคนขับ หากเกิดเหตุหรือคนขับไม่สามารถเปิดให้ได้จะต้องมีมาตรการรองรับ เป็นต้น 

ส่วน บขส.นั้น ได้สั่งการให้นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. เข้มงวดกับมาตรการกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินให้มากขึ้น ซึ่งเบื้องต้น บขส.รายงานว่ามีมาตรการอยู่แล้ว โดยก่อนออกรถในทุกเส้นทางจะมีการฉายวิดีโอให้ผู้โดยสารทราบถึงขั้นตอนการปฏิบัติกรณีเกิดเหตุ รวมถึงเข้มงวดให้ผู้โดยสารรัดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง เพราะครั้งนี้พบว่าผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ขาหักด้วย ซึ่งคาดว่าน่าจะกระแทกกับเบาะหน้าอย่างแรง เนื่องจากไม่ได้รัดเข็มขัดนิรภัย