กฟน.สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นที่ตั้งกองบัญชาการ นปช. ค้างชำระค่าไฟ 15 ล้านบาท เมื่อครบกำหนดจ่ายไม่จ่ายต้องส่งเจ้าหน้าที่ไปตัดไฟจนทำให้เกิดการกักตัวคนตัดไฟ ยืนยันไม่สองมาตรฐาน รับห้างใหญ่ต้องดูผลกระทบร้านค้าย่อยไม่ตัดไฟแต่ต้องจ่ายดอกเบี้ย อดีตเคยทำกับห้างมาบุญครองแล้ว วอนอย่านำ กฟน.เป็นจำเลยทางสังคม
นายอาทร สินสวัสดิ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เปิดเผยถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ กฟน.ไปดำเนินการตัดไฟห้างอิมพีเรียล สาขาลาดพร้าว เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.เนื่องจากได้ติดค้างค่าไฟฟ้ากว่า 15 ล้านบาท แต่ไม่สามารถตัดได้เพราะเจ้าหน้าที่ดูแลอาคารได้ร้องขอผ่อนผันให้ยืดเวลาออกไปก่อนว่า กฟน.ยืนยันว่าจะใช้มาตรฐานตัดไฟเดียวกันอย่างแน่นอน แต่กรณีห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล ลาดพร้าว เป็นลูกค้าขนาดใหญ่มีผู้เช่าต่อจำนวนมากต้อง ตรวจสอบรายละเอียดเพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อนมาก
“ขณะนี้ได้มอบหมายนายพิชัย สงวนไชยไผ่วงศ์ รองผู้ว่าการ ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าจะมีมูลค่า 15 ล้านบาทจริงหรือไม่ ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบเสร็จสิ้นโดยเร็ว หากพบว่าเป็นหนี้ก็จะต้องมีการบวกดอกเบี้ย ในอดีตกว่า 10 ปีก่อนห้างมาบุญครองก็ติดค่าไฟฟ้าเหมือนกัน รมว.มหาดไทยสมัยนั้นให้ดูแลโดยไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน กฟน.ก็ต้องเจรจาให้จ่ายค่าไฟฟ้าพร้อมดอกเบี้ยแต่ไม่ตัดไฟ เพราะไม่เช่นนั้นผู้ค้ารายย่อยจะเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก กรณีอิมพีเรียลก็ต้องดำเนินการคล้ายคลึงกัน อย่านำ กฟน.มาเป็นจำเลยทางสังคม” นายอาทรกล่าว
ทั้งนี้ กฟน.ใช้มาตรฐานเดียวกันในการดูแล โดยใช้เวลารวม 45 วันตั้งแต่จดหมายเลขหน่วยที่ใช้ไฟฟ้าในแต่ละเดือน โดยหลังจากจดหน่วยแล้วจะมีการส่งไปรษณีย์แจ้งหนี้ภายใน 3 วัน หลังจากนั้นต้องชำระภายใน 7 วัน หากไม่ชำระจะเตือนภายใน 3 วัน และหากยังไม่ชำระอีกจะตัดไฟฟ้าใน 7 วัน รวมขั้นตอนทั้งหมดคือ 45 วัน ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้มีระเบียบชัดเจน
รายงานข่าวระบุว่า ห้างอิมพีเรียล สาขาลาดพร้าว ได้ติดค้างค่าไฟฟ้ากว่า 15 ล้านบาท จนล่าสุดทางการไฟฟ้าฯ ได้เข้าไปแจ้งต่อผู้ดูแลอาคาร พร้อมทั้งกำหนดวันให้ชำระค่าไฟฟ้า แต่เมื่อครบกำหนดก็ยังไม่มาจ่ายค่าไฟฟ้า ดังนั้น ในวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมาทาง กฟน.จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปเพื่อตัดไฟฟ้าแต่มีการกักตัวเจ้าหน้าที่ตัดไฟไว้ต้องเจรจากันอยู่นาน และเจ้าหน้าที่ซึ่งดูแลอาคารได้ร้องขอให้ผ่อนผันและให้ยืดระยะเวลาออกไปอีก แต่ กฟน.ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะผิดระเบียบ
ทั้งนี้ ห้างสรรพสินค้าดังกล่าวเป็นของนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ อดีต รมช.พาณิชย์ สมัยรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกฯ และเป็นอดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน รวมถึงเป็น 1 ใน 5 ของผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเชื่อมโยงกับการสนับสนุนเงินแก่แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และให้ นปช.ใช้ห้างอิมพีเรียล ชั้น 5 เป็นสำนักงาน และเป็นที่ตั้งของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเชีย อัพเดท ในชั้น 6 รวมทั้งยังเป็นศูนย์รวมของการแถลงข่าวแจ้งความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง
