ผู้ส่งออกตั้งเป้าปีนี้ส่งออกข้าวได้แค่ 6.2-6.5 ล้านตันจากเป้าหมายรัฐวางไว้ 8.5 ล้านตัน เหตุราคาข้าวไทยแพงกว่าเพื่อนบ้านจากโครงการรับจำนำ ส่งผลให้ผู้ส่งออกข้าวไทยปรับกลยุทธ์หันซื้อข้าวเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม กัมพูชา ปากีสถาน แล้วไปขายยังจีนมากขึ้น ชี้การส่งออกข้าวหลายประเทศน่าจับตา เหตุมาแรงทั้งปากีสถาน พม่า กัมพูชา
นายโชคชัย เศรษฐีวรรณ อุปนายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยในงานแถลงข่าวร่วม 3 องค์กรเศรษฐกิจเพื่อประเมินการส่งออกอุตสาหกรรมอาหารปี 2556 ว่า ในส่วนของการส่งออกข้าวปี 2556 สมาคมฯ ตั้งเป้าการส่งออกข้าวไทยที่ 6.2-6.5 ล้านตัน ต่ำกว่าปีก่อนที่อยู่ในระดับ 6.9 ล้านตัน เนื่องจากตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-21 พ.ค. 56 ยอดส่งออกข้าวของไทยได้ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนถึง 11% โดยส่งออกอยู่ที่ 2.34 ล้านตัน ทำให้ไทยส่งออกข้าวเป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากอินเดียที่ส่งออก 3.34 ล้านตัน และเวียดนาม 2.78 ล้านตัน
“รัฐบาลตั้งเป้าการส่งออกข้าวในปีนี้อยู่ในระดับ 8.5 ล้านตัน ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงมากซึ่งเราประเมินแล้วว่าคงยากที่จะเป็นไปได้เพราะผลผลิตข้าวทั่วโลกมีจำนวนมากราว 30 ล้านตัน และที่สำคัญราคาถูกกว่าไทยมาก เว้นแต่รัฐบาลจะระบายข้าวในสต๊อกได้มากขึ้น ปัญหาดังกล่าวทำให้ผู้ส่งออกข้าวไทยหลายรายเริ่มปรับกลยุทธ์หันไปมองการซื้อข้าวจากเพื่อนบ้านมากขึ้น” นายโชคชัยกล่าว
ทั้งนี้ ผู้ส่งออกข้าวไทยบางรายกำลังเจรจาซื้อข้าวจากเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา เวียดนามและปากีสถานเพื่อส่งออกให้แก่ลูกค้า เนื่องจากนโยบายจำนำข้าว 1.5 หมื่นบาทต่อตันของรัฐบาลไทยมีราคาสูงกว่าตลาดโลกมากทำให้การส่งออกข้าวของไทยลำบากขึ้น โดยข้าวที่ซื้อมาจะเน้นส่งออกไปยังจีนเป็นหลักเนื่องจากเป็นตลาดใหญ่ โดยราคาข้าวขาว 5% ที่มีราคาซื้อขายในตลาดโลกนั้นข้าวของไทยจะอยู่ในระดับ 520-530 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ส่วนข้าวจากเวียดนามซึ่งจะมีราคาต่ำที่สุดจะอยู่ในระดับ 390 ดอลลาร์ต่อตัน หรือจะต่ำกว่าไทยประมาณ 120-150 ดอลลาร์ต่อตัน
“ยอดการส่งออกข้าวในหลายๆ ประเทศน่าติดตามอย่างมาก โดยเฉพาะปากีสถานที่ก้าวมาอยู่ในระดับ 4 ของการส่งออกข้าวในตลาดโลกแล้ว รวมถึงพม่าที่สามารถส่งออกไปจีนได้เกือบ 1 ล้านตัน และกัมพูชาก็มียอดการส่งออกที่เป็นไปอย่างก้าวกระโดด” นายโชคชัยกล่าว