ASTVผู้จัดการรายวัน - “บาจา” เปิดศึกตลาดรองเท้า ซุ่มขายออนไลน์ส่งถึงบ้านเดือนกรกฎาคมนี้ พร้อมทุ่มงบกว่า 300 ล้านบาทปูพรมเครือข่ายปีนี้ปั้นแบรนด์ใหม่ “ฟุตอิน” เสริมทัพขยายวัยรุ่น ปรับอิมมจใหม่ทั่วโลกไม่ใช่แค่รองเท้านักเรียน
นายชิตพันธ์ กัณหะสิริ ผู้จัดการฝ่ายค้าปลีก บริษัท บาจา (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บาจาได้ทำการปรับอิมเมจและแบรนด์ใหม่ทั่วโลกมาประมาณ 3 ปีแล้ว รวมทั้งบาจาประเทศไทยด้วยที่ภาพลักษณ์ของบาจาในไทยส่วนใหญ่ผู้บริโภคจะมองว่าเป็นแค่รองเท้านักเรียนเท่านั้นเอง ซึ่งความจริงบาจามีมากกว่ารองเท้านักเรียน และได้ทำการปรับโฉมโมเดลของร้านบาจาใหม่ด้วย รวมทั้งการเปิดแบรนด์ร้านรองเท้าใหม่ในไทย และการขยายสินค้ากลุ่มเป้าหมายไปยังวัยรุ่นมากขึ้นด้วย ซึ่งใช้งบดำเนินการประมาณ 200 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดขายเติบโตขึ้นเฉลี่ย 13-18% ในช่วงที่ผานมา
ล่าสุดบาจาเตรียมเปิดตัวบริการใหม่ “บาจาโฮมดีลิเวอรี” (BATA HOME DELIVERY) ส่งรองเท้าคู่โปรดตรงถึงบ้านคุณในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ เป็นการขายผ่านทางโลกออนไลน์ผ่านหน้าเฟซบุ๊ดบาจาไทยแลนด์ และหน้าร้านบาจาที่มีสัญลักษณ์ BATA HOME โดยเงื่อนไขสั่งซื้อสินค้ามูลค่า 499 บาทขึ้นไป ไม่เสียค่าจัดส่ง ชำระได้ผ่านทางบัตรเครดิตตามเงื่อนไข ส่งสินค้าได้ภายใน 3-5 วันทำการ จะเป็นสินค้ารองเท้าที่ไม่สามารถหาซื้อรุ่นหรือไซส์รองเท้าได้ตามร้านและเป็นสินค้าค่อนข้างเอ็กซ์คลูซีฟ
บริการดังกล่าวทำขึ้นเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่มีเวลาน้อยลง และยังเป็นการสร้างแบรนด์บาจาและเพิ่มช่องทางการขายใหม่ๆ และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ซึ่งในต่างประเทศเริ่มบริการนี้เมื่อกลางปีที่แล้วกระจายในหลายประเทศแล้ว เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย อินเดีย ได้รับการตอบรับดีจากยอดขายผ่านช่องทางนี้วันละ 20 คู่ต่อประเทศในช่วงแรก เป็นเฉลี่ย 100 คู่ต่อวันต่อประเทศแล้ว
ทั้งนี้ โฉมใหม่ของร้านบาจามีทั้งหมด 257 สาขาปรับหมดแล้ว แบ่งเป็น 1. ร้านแบบบาจาซิตี้ 47 สาขา จับกลุ่มบีบวกขึ้นไป ตั้งอยู่ในห้างเซ็นทรัล เดอะมอลล์ ชอปปิ้งเซ็นเตอร์ และ 2. ร้านบาจาแฟมิลี่ จับกลุ่มบีลบลงมา ตั้งอยู่ในไฮเปอร์มาร์ทเป็นหลัก สินค้าทั้งสองร้านจำหน่ายแบรนด์เครือบาจาทั้งหมด เช่น บาจา แมรี่แคลร์ บับเบิ้ลกัมเมอร์ บาจาคอมฟิต นอร์ทสตาร์ เพาเวอร์ เป็นต้น และมีสินค้าพันธมิตรแบรนด์อื่น เช่น สกอลล์ สเกตเชอร์ เป็นต้น
รวมทั้งได้เปิดตัวร้านและรองเท้าแบรนด์ใหม่คือ FOOT IN เป็นของบาจาเองเหมือนต่างประเทศ จับกลุ่มวัยรุ่นซึ่งจากข้อมูลพบว่าวัยรุ่นไม่เข้าและไม่ซื้อรองเท้าบาจาเพราะมองว่าไม่ทันสมัย และคิดว่ามีแต่รองเท้านักเรียน ราคาเริ่มที่ 399 บาท ต่ำกว่าแบรนด์บาจา ขณะนี้มี 27 สาขาแล้ว มีการเติบโตถึง 40%
สำหรับแผนลงทุนปีนี้จะเปิดร้านบาจารวมกันอีก 30 สาขา ลงทุนมากกว่า 180 ล้านบาท และร้านฟุตอินอีก 10 สาขา ลงทุน 180 ล้านบาท รวมมากกว่า 300 ล้านบาท และใช้งบการตลาดประมาณ 3% จากยอดขายรวม ปีนี้ที่ตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 3,000 ล้านบาท เติบโต 17% แบ่งสัดส่วนรายได้มาจากบาจา 90% และฟุตอิน 10% ขณะที่สัดส่วนรายได้จากรองเท้านักเรียนเหลือแค่ 5% เท่านั้นเอง จากอดีตที่มีประมาณ 30% จากยอดขาย
นายชิตพันธ์ กัณหะสิริ ผู้จัดการฝ่ายค้าปลีก บริษัท บาจา (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บาจาได้ทำการปรับอิมเมจและแบรนด์ใหม่ทั่วโลกมาประมาณ 3 ปีแล้ว รวมทั้งบาจาประเทศไทยด้วยที่ภาพลักษณ์ของบาจาในไทยส่วนใหญ่ผู้บริโภคจะมองว่าเป็นแค่รองเท้านักเรียนเท่านั้นเอง ซึ่งความจริงบาจามีมากกว่ารองเท้านักเรียน และได้ทำการปรับโฉมโมเดลของร้านบาจาใหม่ด้วย รวมทั้งการเปิดแบรนด์ร้านรองเท้าใหม่ในไทย และการขยายสินค้ากลุ่มเป้าหมายไปยังวัยรุ่นมากขึ้นด้วย ซึ่งใช้งบดำเนินการประมาณ 200 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดขายเติบโตขึ้นเฉลี่ย 13-18% ในช่วงที่ผานมา
ล่าสุดบาจาเตรียมเปิดตัวบริการใหม่ “บาจาโฮมดีลิเวอรี” (BATA HOME DELIVERY) ส่งรองเท้าคู่โปรดตรงถึงบ้านคุณในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ เป็นการขายผ่านทางโลกออนไลน์ผ่านหน้าเฟซบุ๊ดบาจาไทยแลนด์ และหน้าร้านบาจาที่มีสัญลักษณ์ BATA HOME โดยเงื่อนไขสั่งซื้อสินค้ามูลค่า 499 บาทขึ้นไป ไม่เสียค่าจัดส่ง ชำระได้ผ่านทางบัตรเครดิตตามเงื่อนไข ส่งสินค้าได้ภายใน 3-5 วันทำการ จะเป็นสินค้ารองเท้าที่ไม่สามารถหาซื้อรุ่นหรือไซส์รองเท้าได้ตามร้านและเป็นสินค้าค่อนข้างเอ็กซ์คลูซีฟ
บริการดังกล่าวทำขึ้นเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่มีเวลาน้อยลง และยังเป็นการสร้างแบรนด์บาจาและเพิ่มช่องทางการขายใหม่ๆ และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ซึ่งในต่างประเทศเริ่มบริการนี้เมื่อกลางปีที่แล้วกระจายในหลายประเทศแล้ว เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย อินเดีย ได้รับการตอบรับดีจากยอดขายผ่านช่องทางนี้วันละ 20 คู่ต่อประเทศในช่วงแรก เป็นเฉลี่ย 100 คู่ต่อวันต่อประเทศแล้ว
ทั้งนี้ โฉมใหม่ของร้านบาจามีทั้งหมด 257 สาขาปรับหมดแล้ว แบ่งเป็น 1. ร้านแบบบาจาซิตี้ 47 สาขา จับกลุ่มบีบวกขึ้นไป ตั้งอยู่ในห้างเซ็นทรัล เดอะมอลล์ ชอปปิ้งเซ็นเตอร์ และ 2. ร้านบาจาแฟมิลี่ จับกลุ่มบีลบลงมา ตั้งอยู่ในไฮเปอร์มาร์ทเป็นหลัก สินค้าทั้งสองร้านจำหน่ายแบรนด์เครือบาจาทั้งหมด เช่น บาจา แมรี่แคลร์ บับเบิ้ลกัมเมอร์ บาจาคอมฟิต นอร์ทสตาร์ เพาเวอร์ เป็นต้น และมีสินค้าพันธมิตรแบรนด์อื่น เช่น สกอลล์ สเกตเชอร์ เป็นต้น
รวมทั้งได้เปิดตัวร้านและรองเท้าแบรนด์ใหม่คือ FOOT IN เป็นของบาจาเองเหมือนต่างประเทศ จับกลุ่มวัยรุ่นซึ่งจากข้อมูลพบว่าวัยรุ่นไม่เข้าและไม่ซื้อรองเท้าบาจาเพราะมองว่าไม่ทันสมัย และคิดว่ามีแต่รองเท้านักเรียน ราคาเริ่มที่ 399 บาท ต่ำกว่าแบรนด์บาจา ขณะนี้มี 27 สาขาแล้ว มีการเติบโตถึง 40%
สำหรับแผนลงทุนปีนี้จะเปิดร้านบาจารวมกันอีก 30 สาขา ลงทุนมากกว่า 180 ล้านบาท และร้านฟุตอินอีก 10 สาขา ลงทุน 180 ล้านบาท รวมมากกว่า 300 ล้านบาท และใช้งบการตลาดประมาณ 3% จากยอดขายรวม ปีนี้ที่ตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 3,000 ล้านบาท เติบโต 17% แบ่งสัดส่วนรายได้มาจากบาจา 90% และฟุตอิน 10% ขณะที่สัดส่วนรายได้จากรองเท้านักเรียนเหลือแค่ 5% เท่านั้นเอง จากอดีตที่มีประมาณ 30% จากยอดขาย
