“ปู” สั่งกระทรวงพลังงานวางระบบสั่งการให้เป็นระบบเดียวกัน และให้หาสำรองไฟให้พอโดยเฉพาะ กทม. หวั่นไฟดับซ้ำรอยภาคใต้จะกระทบหนัก “เพ้ง” มอบ กฟผ.เร่งหาไฟสำรองกรณีโรงไฟฟ้าภาคใต้ไม่สามารถเกิดเพิ่มได้ พร้อมเร่งแผนส่งเสริมติดตั้งโซลาร์เซลล์ บนหลังคาอาคาร บ้านเรือนให้เร็วขึ้น หวังลดการสร้างโรงไฟฟ้าได้ 1-2 แห่ง “กบง.” เคาะปรับเงินกองทุนฯ เบรกเบนซินขึ้นราคา เผยกองทุนน้ำมันฯ จ่อพลิกเป็นบวก 7 มิ.ย.นี้
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (28 พ.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงพลังงานไปหารือร่วมกับ 3 การไฟฟ้าจัดทำระบบสั่งการกรณีไฟดับฉุกเฉินให้เป็นระบบเดียวกันเพื่อป้องกันไฟดับซ้ำเช่นเดียวกับ 14 จังหวัดภาคใต้เมื่อ 21 พ.ค.ที่ผ่านมาพร้อมกับให้มีระบบไฟสำรองกรณีเกิดปัญหาขึ้นโดยเฉพาะระบบสายส่งต้องเพียงพอ โดยเน้นรวมถึงเขตกรุงเทพมหานครที่ต้องเตรียมพร้อมเพราะหากเกิดปัญหาขึ้นจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจค่อนข้างมาก
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นตนได้มอบหมายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ไปหาปริมาณไฟฟ้าสำรองของประเทศเพิ่มขึ้นในทุกวิถีทางไว้รองรับหากกรณีโรงไฟฟ้าภาคใต้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่โรงไฟฟ้าถ่านหินสะอาด จ.กระบี่ที่มีการรับฟังความเห็นประชาชนอยู่ซึ่งยังมีเวลาให้วางแผน 1-2 ปี พร้อมกันนี้ยังได้เร่งรัดให้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ไปเร่งสรุปแนวทางการส่งเสริมการติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคาอาคารและบ้านที่อยู่อาศัย หรือ Roof Top เพื่อนำเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) อนุมัติโดยเร็ว
“การส่งเสริมให้อาคาร โรงงาน บ้านที่อยู่อาศัยมาติดโซลาร์เซลล์มากขึ้นก็จะเป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยลดการสร้างโรงฟ้าใหม่ได้ 1-2 โรง ซึ่งได้ให้ พพ.สรุปเร็วขึ้นว่าจะส่งเสริมอย่างไร” นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
นายพงษ์ศักดิ์ยังกล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) วันนี้ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบการปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันชนิดต่างๆ โดยน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และ 91 ปรับลดการจัดเก็บลง 0.30 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ อี 20 และอี 85 เพิ่มอัตราเงินชดเชย 0.50 บาทต่อลิตร ส่วนดีเซลมีการเพิ่มการจัดเก็บ 0.40 บาทต่อลิตร
ทั้งนี้ ผลจากการจัดเก็บอัตราดังกล่าวทำให้กองทุนน้ำมันฯ ยังคงมีรายรับเพิ่มขึ้นจากเดิม 180 ล้านบาทต่อวัน เป็นรายรับ 196 ล้านบาทต่อวัน ณ วันที่ 26 พ.ค.กองทุนน้ำมันฯ มีฐานสุทธิติดลบประมาณ 2,024 ล้านบาท ซึ่งหากอัตราการจัดเก็บอยู่ในระดับดังกล่าวจะทำให้ฐานะกองทุนน้ำมันฯ พลิกกลับมาเป็นบวกได้ภายในวันที่ 7 มิถุนายน 2556
