ตรัง - ประธานสภาอุตสาหกรรมตรัง จี้รัฐบาลแก้ปัญหาไฟฟ้าภาคใต้ดับด้วยการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าทางเลือกอย่างจริงจัง โดยเฉพาะเศษไม้ยาง หรือปาล์ม ซึ่งมีมากในท้องถิ่นอยู่แล้ว
นายวิถี สุพิทักษ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า จากกรณีที่ได้เกิดไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ทั้งในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ เมื่อคืนวันที่ 21 พ.ค.56 ที่ผ่านมา ได้สร้างผลกระทบให้เกิดขึ้นต่อภาคอุตสาหกรรม และภาคการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก จึงถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลจะต้องรีบเร่งหาพลังงานสำรอง และหาทางส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าทางเลือกอย่างจริงๆ จังๆ โดยเฉพาะพลังงานทดแทนที่มาจากวัสดุธรรมชาติ ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากในท้องถิ่นภาคใต้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเศษไม้ยางพารา หรือเศษปาล์มน้ำมัน
ทั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบันมีภาคเอกชนจำนวนหลายแห่งได้ลงทุนเพื่อสร้างโรงไฟฟ้าจากวัสดุเหลือใช้เหล่านี้ และสามารถนำพลังงานมาใช้ในสถานประกอบการ รวมทั้งเหลือจำหน่ายให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) อีกจำนวนหนึ่ง โดยไม่มีปัญหาเรื่องมลพิษ หรือสิ่งแวดล้อมเหมือนกับพลังงานอย่างอื่น แต่กลับไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนจากทางรัฐบาลเท่าที่ควร ซึ่งหากมีการสนับสนุนให้มีต้นทุนลดลง และเข้ามาช่วยเหลือในด้านต่างๆ มากขึ้น ก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของพลังงานสำรอง
“เนื่องจากขณะนี้ในภาคใต้กำลังมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้นเรื่อยๆ หากปล่อยให้เกิดไฟฟ้าดับขึ้นบ่อย คงไม่เป็นผลดีต่อการพัฒนาพื้นที่อย่างแน่นอน ฉะนั้นรัฐบาลจะมองข้ามความสำคัญของปัญหานี้ไปไม่ได้ และต้องสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานให้เกิดขึ้นมากกว่านี้ ด้วยการจัดสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้น หรือใช้วิธีการอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยคำนึงถึงความเหมาะสมและยั่งยืน อาจไม่ใช่น้ำมัน ซึ่งมีต้นทุนแพง หรือถ่านหิน ซึ่งมีกระแสคัดค้านสูง แต่ขอให้เป็นพลังงานที่มีเสถียรภาพมากที่สุดในอนาคต”