“เพ้ง” เตรียมดันแผนสำรองหากโรงไฟฟ้าถ่านหินในไทยเกิดไม่ได้ให้ กฟผ.จับมือบริษัทลูกลุยสร้างโรงไฟฟ้าที่ทวาย พม่า ขนาด 4 พันเมกะวัตต์แทน พร้อมให้ ปตท.ศึกษาสร้างโรงแยกท่อก๊าซออกมาเป็นบริษัทลูกและเปิดให้เอกชนเข้ามาใช้บริการลดผูกขาด
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า หากที่สุดแล้วไทยไม่สามารถสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินได้จะด้วยเหตุผลใดก็ตามคงจะต้องหันไปรับซื้อไฟฟ้าถ่านหินจากเพื่อนบ้านแทน โดยขณะนี้การสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในไทยเป็นเรื่องยากเพราะถูกต่อต้านจากประชาชนทั้งที่ต้องการค่าไฟฟ้าราคาถูก จึงปรับแผนเป็นการรับซื้อในต่างประเทศ โดยเฉพาะมอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยศึกษาแผนการรับซื้อและการร่วมลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมทวาย ประเทศเมียนมาร์ จำนวน 2 โรง โรงละ 2,000 เมกะวัตต์ รวม 4,000 เมกะวัตต์
“เบื้องต้นคงต้องให้บริษัทในเครือ กฟผ. เช่น บมจ.ผลิตไฟฟ้า (เอ็กโก้) หรือ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรี เข้าไปลงทุนร่วมถือหุ้น หลังจากนั้นจะมีการขายหุ้นบางส่วนให้ บริษัท กฟผ.อินเตอร์เนชั่นแนล เพื่อให้ กฟผ.มีความเป็นเจ้าของและรายได้จากโครงการเช่นนี้มากยิ่งขึ้น” นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
ทั้งนี้ ตามแผนพัฒนากำลังไฟฟ้าระยะยาว 20 ปี ฉบับปัจจุบัน (พีดีพี 2010 ฉบับที่ 3) กำหนดให้ กฟผ.ก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน 4,000 เมกะวัตต์ แต่จนถึงขณะนี้ไม่มีความคืบหน้า สาเหตุหลักจากการต่อต้านของประชาชนที่ไม่ยอมรับโรงไฟฟ้าถ่านหิน โดยเฉพาะที่จังหวัดกระบี่ซึ่ง กฟผ.ก็คงจะต้องเร่งดำเนินการให้เต็มที่ก่อน
นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้ ปตท.ไปศึกษาเรื่องการแยกท่อก๊าซฯ ของ ปตท.ออกมาเป็นบริษัทในเครือ และเปิดให้เอกชน หรือบุคคลที่สามเข้ามาใช้บริการ โดย กกพ.กำหนดค่าผ่านท่อ วิธีการนี้จะสร้างความเป็นธรรมและลดข้อครหาที่ว่า ปตท.ผูกขาดได้ด้วย
