“พาณิชย์” ชง ครม.ขยายเวลานำเข้าข้าวโพดเลี้้้ยงสัตว์ถึงสิ้นเดือน ส.ค.นี้ จากเดิมแค่ ก.ค. และให้นำเข้าแบบไม่จำกัดจำนวน ยันไม่กระทบราคาในประเทศ “บุญทรง” นัดถกแก้ราคาปาล์มตกต่ำสัปดาห์หน้า
นางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายอาหาร เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้เห็นชอบขยายเวลานำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ตามข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) จากกำหนดเดิมออกไปอีก 1 เดือนตามที่รัฐบาลกัมพูชาร้องขอ เป็นสิ้นสุดเดือน ส.ค. 2556 จากเดิมสิ้นสุดเดือน ก.ค. 2556 และอนุมัติให้นำเข้าได้แบบไม่จำกัดจำนวน โดยจะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในเร็วๆ นี้
“การอนุมัติดังกล่าวจะไม่กระทบต่อราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ เพราtผลผลิตในประเทศแทบไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ ขณะเดียวกันจะเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น อาหารสัตว์ และยังเป็นการช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้าน และขยายการค้าระหว่างกันด้วย” นางวัชรีกล่าว
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้จะประชุมคณะกรรมการด้านการตลาดปาล์มน้ำมัน ที่มีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน เพื่อพิจารณาขยายมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ที่ร้องเรียนให้รัฐบาลดำเนินมาตรการแทรกแซงราคาปาล์มน้ำมัน เพราะขณะนี้ราคาลดลงมาก เนื่องจากผลผลิตล้นตลาด โดยจะพิจารณาขยายโครงการรับซื้อน้ำมันปาล์มรอบ 2 จำนวน 50,000 หากได้รับการพิจารณา ก็จะรับได้ซื้อกลางเดือน พ.ค.นี้เป็นต้นไป
“เท่าที่ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบการเพาะปลูกปาล์มในภาคใต้ พบว่าผลผลิตและปริมาณสต็อกมีเพิ่มขึ้น และราคาตลาดลดลงจริง เพราะราคาอ้างอิงตลาดโลกที่มาเลเซียมีราคาลดลงจริง“
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า มติครม.เดิมได้กำหนดกรอบปริมาณรับซื้อน้ำมันปาล์มเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรไว้ 100,000 ตัน แบ่งเป็นรับซื้อรอบละ 50,000 ตัน สิ้นสุดเดือน มี.ค. 2556 โดยในรอบแรก ได้รับซื้อน้ำมันปาล์มโดยองค์การคลังสินค้า (อคส.) แล้ว 50,000 ตัน และรอการระบายสต็อก ซึ่งเดิมกำหนดระบายด้วยการขายให้โรงงงานผลิตพลังงานทดแทนและส่งออก แต่ติดปัญหาค่าเงินบาทแข็ง และราคาตลาดโลกตกต่ำ ทำให้ราคาน้ำมันปาล์มของไทยสูงกว่าราคาตลาด หากขายจะขาดทุนจำนวนมาก นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์กำลังหาแนวทางระบายมันสำปะหลังในสต๊อกรัฐบาลที่ได้รับจำนำไว้ 10 ล้านตันด้วย ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะขายได้ต่ำกว่าราคารับจำนำ กก.ละ 30-50 สตางค์