“ซีพีเอฟ” ปรับตัวรับบาทแข็ง โดยหันมาปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต เร่งนำเข้าเครื่องจักรที่ทันสมัยมาลดผลกระทบค่าเงิน
นายสุขวัฒน์ ด่านเสริมสุข รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ด้านธุรกิจอาหารสำเร็จรูป บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดเผยว่า แม้เงินบาทจะแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ทางกลุ่มซีพีโดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูปที่ผลิตทั้งไส้กรอก ข้าวกล่อง และเนื้อสุกรต่างปรับตัว โดยหันมาปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต โดยนำเครื่องจักรที่ทันสมัยมาลดผลกระทบค่าเงินบาทที่แข็งค่า
นายสุขวัฒน์กล่าวว่า แม้เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นจะกระทบสินค้าส่งออกของทางกลุ่มซีพีบ้าง แต่แนวทางการปรับตัวน่าจะทำให้ลดผลกระทบจากปัญหาค่าเงินบาทได้ รวมถึงเชื่อว่าค่าเงินบาทจะไม่แข็งมากเกินไป
อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มอาหารสำเร็จรูปเชื่อว่ามีโอกาสเติบโตในตลาดต่างประเทศและในประเทศ และเมื่อเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) จะสามารถทำให้อาหารสำเร็จรูปกลุ่มซีพีไปขยายตลาดอาเซียนได้มากขึ้น นอกจากนี้ เร็วๆ นี้จะมีการก่อสร้างโรงงานผลิตซอสปรุงรส เพื่อป้อนตลาด
ผู้บริหารซีพีเอฟกล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางกลุ่มอาหารสำเร็จรูปมองว่าปีนี้น่าจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ไม่ต่ำกว่า 12,000 ล้านบาท โดยในส่วนของไส้กรอกซีพี มูลค่าการตลาดจะมากกว่า 40,000 ล้านบาท และจากการที่ทางกลุ่มสามารถเป็นผู้นำทางการตลาดมีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่าร้อยละ 20 หรือมากกว่า 8,000 ล้านบาท คาดว่าปีนี้ผลิตภัณฑ์ไส้กรอกซีพีจะเติบโตได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 25-30
