xs
xsm
sm
md
lg

ปตท.ทุ่ม 5 พันล้านใน 3 ปี ตั้ง ร.ร.-มหา'ลัยวิทย์-เทคโนฯ ที่ระยอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - กลุ่ม ปตท.ควัก 5 พันล้านใน 3 ปีผลักดันยุทธศาสตร์ 3 ประสานแห่งการเรียนรู้ สู่ความยั่งยืน โดยนำต้นแบบการพัฒนามาจากเกาหลีใต้ โดยจัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาด้านวิทย์และเทคโนฯ แห่งแรกในระยอง และร.ร.มัธยมปลายด้านคณิต-วิทย์ เทียบมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก หวังสร้างนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่ม ปตท.ได้ผลักดันยุทธศาสตร์ “3 ประสานแห่งการเรียนรู้ สู่ความยั่งยืน” ผ่าน 3 โครงการ เพื่อสร้างองค์ความรู้ทั้งภายในและภายนอก ทั้งกลุ่มเยาวชน ผู้นำความคิด และพนักงานภายในองค์กร โดยมีเป้าหมายให้ไทยก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลก นำต้นแบบมาการพัฒนามาจากหลายประเทศชั้นนำของโลก เช่น เกาหลีใต้ เป็นต้น

โครงการ 3 ประสานแห่งการเรียนรู้ สู่ความยั่งยืน ประกอบด้วย 1. โครงการจัดตั้งสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระยอง (RAIST) ซึ่งเป็นการจัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาตั้งแต่ปริญญาตรีถึงปริญญาเอก เน้นด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และโรงเรียนวิทยาศาสตร์ระยอง (RASA) หลักสูตรระดับมัธยมปลาย สำหรับนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ โดยสถาบันการศึกษาทั้ง 2 ระดับนี้จะส่งผลให้เกิดนักวิจัย นักวิทยาสตร์ที่สร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมในการพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันของประเทศได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน

2. โครงการสถาบันวิทยาการพลังงาน (TEA) จัดตั้งโดยกระทรวงพลังงาน โดย ปตท.เป็นผู้ให้การสนับสนุน โดยพัฒนาหลักสูตรอบรมเพื่อให้ผู้นำทางความคิดจากองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน สื่อมวลชน นักวิชาการ และประชาชน ให้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องพลังงานอันนำไปสู่การใช้พลังงานและการพัฒนาอย่างยั่งยืน และ 3. โครงการจัดตั้ง PTT Leadership and Learning Institute (PLLI) เพื่อพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้มีศักยภาพสูงสุด โดยมุ่งพัฒนาภาวะผู้นำ เตรียมความพร้อม Potential Future Leader ให้กลุ่ม ปตท. โครงสร้างหลักสูตรจะครอบคลุมพนักงานทุกระดับ ตั้งแต่พนักงานใหม่จนถึงผู้บริหารระดับสูง ซึ่งในส่วนการพัฒนาของผู้บริหารระดับสูง จะเป็นความร่วมกับสถาบันพัฒนาผู้บริหารชั้นนำระดับโลก อาทิ ฮาร์เวิร์ด บิซิเนส สกูล ในการออกแบบและพัฒนาหลักสูตรเพื่อกลุ่ม ปตท.โดยเฉพาะ ซึ่งสถาบัน PLLI นี้จะเป็นกลไกผลักดันให้ กลุ่ม ปตท.บรรลุเป้าหมายในการเป็นบริษัทพลังงานไทยข้ามชาติชั้นนำ

ทั้งนี้ ทางกลุ่ม ปตท.ใช้งบลงทุนผ่านโครงการดังกล่าวประมาณ 5 พันล้านบาทใน 3ปีข้างหน้า ใช้ลงทุนสถานที่ เครื่องมือ อุปกรณ์การเรียนการสอนและการวิจัย โดยใช้พื้นที่ประมาณ 200 ไร่ในนิคมฯ ไออาร์พีซี ที่เชิงเนิน จ.ระยอง หลังจากนั้นกลุ่ม ปตท.จะจัดสรรงบเพิ่มเติมตั้งเป็นกองทุนฯ ให้สถาบันดังกล่าวบริหารงบประมาณ และเลี้ยงตัวเองได้ในอนาคตเหมือนมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกอย่าง ฮาร์เวิร์ด เป็นต้น ซึ่งการจัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาแห่งแรกในจังหวัดระยองนี้ จะเริ่มเปิดการเรียนการสอนได้ในปี 2558 โดยตั้งปี 2563 เป็นมหาวิทยาลัยด้านวิจัยที่ได้รับการจัดอันดับเทียบเท่ามหาวิทยาลัยชั้นนำด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในไทย และปี 2568 ติด 1 ใน 10 มหาวิทยาลัยชั้นนำของอาเซียน ปี 2578 เป็น 1 ใน50 มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก

นายไพรินทร์กล่าวถึงทิศทางราคาน้ำมันโลกในช่วงนี้ปรับตัวลดลงอยู่ที่ระดับ 103 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล คาดว่าทั้งปีราคาน้ำมันดิบดูไบจะอยู่ในช่วง 100-110 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยปีนี้สถานการณ์นับว่ามีความผันผวนน้อยกว่าปีที่แล้ว ซึ่งไตรมาสที่ 2 /2555 ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงจากไตรมาสที่ 1 กว่า 30 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เหลือเพียง 90 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งในกลุ่ม ปตท.ได้ทำประกันความเสี่ยงเพื่อป้องกันปัญหาการขาดทุนสต็อกไว้แล้ว

ส่วนการบริหารพลังงานในช่วงที่พม่าหยุดส่งก๊าซธรรมชาติในวันที่ 5-14 เม.ย.นั้น นายไพรินทร์กล่าวว่า ในส่วนการซ่อมท่อฐานผลิตแหล่งก๊าซยาดานา ทางโททาลได้รายงานว่าได้ซ่อมไปแล้วกว่า 50% ซึ่งสถานการณ์โดยรวมอยู่ในภาวะปกติ โดยเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาไฟดับอย่างแน่นอน

สำหรับช่วงเทศกาลสงกรานต์ทาง ปตท.ได้มีการสำรองน้ำมันในปริมาณสูงในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เนื่องจากประชาชนเดินทางท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนา โดยยืนยันว่าน้ำมันมีเพียงพอแน่นอน

ส่วนกรณีที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ซื้อรถเมล์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) กว่า 3,000 คันนั้น ปตท.ได้หารือร่วมกับ ขสมก.เพื่อเตรียมความพร้อมในการสร้างสถานีและจัดหาก๊าซ NGV รองรับ โดยยืนยันว่ามีปริมาณก๊าซเพียงพอ แม้ว่าปริมาณก๊าซในอ่าวไทยจะมีปริมาณลดน้อยลง ซึ่ง ปตท.เตรียมนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) มาทดแทน และในภาพรวมแล้วมีปริมาณรถที่ใช้ NGV มากกว่า 2.5 แสนคัน
กำลังโหลดความคิดเห็น