ยูบีเอ็มฯ หนุนผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไทย เร่งเพิ่มศักยภาพการผลิตรับเออีซี แนะใช้เทคโนโลยี เครื่องจักรลดต้นทุน เพิ่มขีดแข่งขัน ดันไทยเป็นฮับอุตสาหกรรมในภูมิภาค พร้อมลุยจัด “อินเตอร์แมค 2013” ยิ่งใหญ่สุดรอบ 30 ปี ขนทัพผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่ายกว่า 1,200 บริษัท จาก 35 ประเทศทั่วโลก มาร่วมงานดันเม็ดเงินสะพัด 7,500 ล้านบาท
นายสรรชาย นุ่มบุญนำ ผู้อำนวยการโครงการ บริษัท ยูบีเอ็ม เอเชีย ประเทศไทย จำกัด ผู้จัดงานแสดงสินค้าและนิทรรศการระดับนานาชาติ เปิดเผยว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาพบว่า 10 ประเทศในภูมิอาเซียนได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลกสู่การลงทุนมากขึ้น รวมถึงประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ประกอบกับการที่ไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคและเป็นประตูที่เชื่อมโยงสู่ประเทศจีน อินเดีย ตลาดใหม่ในลุ่มแม่น้ำโขง ตลอดจนภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ทำให้หลายประเทศใช้ไทยเป็นฐานการผลิตสินค้าเพื่อส่งออกไปยังตลาดอาเซียนรวมทั้งตลาดโลกด้วย
ทั้งนี้ มองว่าการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปลายปี 2558 นี้ จะทำให้ตลาดภูมิภาคอาเซียนเป็นหนึ่งเดียวและมีขนาดประชากรรวมกันกว่า 600 ล้านคน ยิ่งเป็นปัจจัยที่ดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติมากขึ้น จึงจำเป็นที่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการผลิตของไทยต้องเร่งยกระดับมาตรฐานการผลิตสินค้าให้มีศักยภาพสูงขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นทั้งค่าแรงขั้นต่ำ และราคาวัตถุดิบต่างๆ โดยเทคโนโลยีและเครื่องจักร ถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้า ขณะเดียวกันก็ช่วยลดต้นทุนด้านแรงงาน เพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมไทย
ดังนั้น ยูบีเอ็มพร้อมยกระดับอุตสาหกรรมการผลิตของไทยทั้งระบบ ล่าสุดได้จัดงานแสดงเทคโนโลยีเครื่องจักรกลอุตสาหกรรมนานาชาติหรือ “อินเตอร์แมค 2013” ขึ้น ระหว่างวันที่ 16-19 พฤษภาคมนี้ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา โดยการจัดงานปีนี้ถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 30 ปี เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุน ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศ คาดว่าจะมีผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมกว่า 40,000 คน จาก 40 ประเทศทั่วโลก ส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าของกิจการ ผู้บริหาร ผู้มีอำนาจในการตัดสินใจสั่งซื้ออุปกรณ์เครื่องจักรในโรงงานขนาดใหญ่ ตลอดจนองค์กรระดับประเทศที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ประกอบการผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมรายใหญ่จนถึงเอสเอ็มอี ซึ่งจะผลักดันให้งานครั้งนี้จะมีเม็ดเงินสะพัด 7,500 ล้านบาท
“ภาคอุตสาหกรรมการผลิตของไทยต้องเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันท่ามกลางปัจจัยภายนอกและภูมิทัศน์โลกที่กำลังเปลี่ยนไปรวมทั้งภูมิภาคอาเซียนที่กำลังจะเป็นประชาคมเดียวกัน ซึ่งจะผลักดันให้ภูมิภาคอาเซียนแข็งแกร่งมากขึ้น และกลายเป็นศูนย์กลาง (ฮับ) การลงทุนและการผลิตในอนาคต และจะเป็นปัจจัยที่เอื้อต่ออุตสาหกรรมการผลิตในไทยอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนและยานยนต์ ที่ปัจจุบันประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญ 1 ใน 10 ของโลก ภาวะดังกล่าวทำให้จัดงานอินเตอร์แมคปีนี้ ยูบีเอ็มต้องการสร้างปรากฎการณ์ความยิ่งใหญ่ให้เกิดขึ้นกับแวดวงอุตสาหกรรมไทยในรอบ 30 ปี จึงดึงผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่ายจาก 35 ประเทศทั่วโลก รวมกว่า 1,200 บริษัท มาร่วมงาน และยังมีไฮไลท์สำคัญคือการนำเสนอนวัตกรรมเครื่องจักรและอุปกรณ์ใหม่ล่าสุด 4,000 รายการ ซึ่งบางรายการจะเปิดตัวเป็นครั้งแรกในเอเชียและประเทศไทยด้วย”
นายสรรชายกล่าวต่อว่า จากนโยรัฐบาลที่มีการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการคืนภาษีรถยนต์คันแรก 1 แสนบาท ส่งผลให้การซื้อรถยนต์เพิ่มขึ้นมากกว่า 1 ล้านคัน กระแสการใช้รถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล (อีโคคาร์) ที่มากถึง 3 แสนคัน ล้วนทำให้อุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ของไทยคึกคัก นโยบายการลงทุน 2 ล้านล้านบาท ของภาครัฐเพื่อพัฒนาโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานต่างๆ ของประเทศ ทำให้การก่อสร้างเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ย 3.58%ใน 5 ปีข้างหน้า (2555-2559) ช่วยกระตุ้นให้ภาคอุตสาหกรรมของไทยขยายตัวมากขึ้นตามไปด้วย ขณะเดียวกันจะผลักดันให้เกิดความต้องการใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรใหม่ๆ เข้ามาช่วยในกระบวนการทำงานมากขึ้น ซึ่งงานอินเตอร์แมค 2013 จะตอบโจทย์นักลงทุนได้เป็นอย่างดี
