ร้อนผ่าวดันชุดว่ายน้ำคึก สปีโดสกัดทางมวยรอง

ASTVผู้จัดการรายวัน - ตลาดชุดว่ายน้ำปีนี้คึกคักรับอากาศร้อนสุดขั้ว คาดทั้งปีเติบโต 15% ทะลุ 3,000 ล้านบาท “สปีโด” เร่งเครื่องขยายชอปเพิ่มอีก ส่ง 30 คอลเลกชั่นใหม่ สกัดทางคู่แข่ง

นายชัยเลิศ มนูญผล กรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน ) ผู้ทำตลาดชุดว่ายน้ำรวม 5 แบรนด์ คือ สปีโด, บีเอสซี, วาโก้, สตรีมไลน์, แอล เปิดเผยว่า ตลาดรวมชุดว่ายน้ำในปี 2556 นี้คาดว่าจะมีการเติบโตประมาณ 15% มูลค่าตลาดรวม 3,000 ล้านบาท

เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมเติบโตดี ปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวในไทยมากขึ้น รวมทั้งการใช้วันหยุดช่วงปิดเทอมพาครอบครัวพักผ่อนไปเที่ยวทะเล ส่งผลต่อการขายชุดว่ายน้ำดีขึ้นตามไปด้วย ซึ่งราคาในไทยต่ำกว่าในต่างประเทศจึงเป็นอีกแรงจูงใจของนักท่องเที่ยวต่างขาติที่่ตัดสินใจซื้อ

สำหรับแนวทางการแข่งขันของตลาดชุดว่ายน้ำในปีนี้ยังคงแข่งกันที่แนวทางการทำตลาด การออกสินค้า คอลเลกชันใหม่รวมทั้งการขยายจุดจำหน่ายของแต่ละแบรนด์เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น รวมทั้งการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างแบรนด์เช่นการร่วมเป็นสปอนเซอร์ในการจัดรายการแข่งขันต่างๆ

ในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้ของผลิตภัณฑ์ชุดว่ายน้ำ สปีโด เติบโตประมาณ 30% จากปีที่แล้วที่เติบโต 20% หรือมีรายได้ประมาณ 350 ล้านบาท รวมทั้งจะผลักดันให้สปีโดมีแชร์เพิ่มเป็น 35% จากปีที่แล้วมี 30% และยังคงครองความเป็นผูนำตลาดเช่นเดิม ส่วนอันดับที่ 2 และ 3 นั้นสลับกัน คือ ไทรอัมพ์ และอารีน่า แต่หากรวมทั้งหมดทุกแบรนด์ที่บริษัททำตลาดแล้วจะมีแชร์รวม 50%

ปีนี้มีบริษัทฯ แผนทำตลาดเต็มที่โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนที่เป็นช่วงขายสำคัญของชุดว่ายน้ำมากกว่า 60% โดยจะมีคอลเลกชันใหม่กว่า 30 แบบออกมาทำตลาด อีกทั้งจะเพิ่มยอดขายกับอุปกรณ์อื่นอกจากชุดว่ายน้ำ เช่น แว่นกันน้ำ ที่มียอดขายดีต่อเนื่อง รวมทั้งจะขยายช่องทางจำหน่ายที่เป็นสปีโดชอปอีกประมาณ 5 สาขา เน้นหัวเมืองท่องเที่ยว และในกรุงเทพฯ จากเดิมมี 8 แห่งเช่นที่ พัทยา ภูเก็ต สมุย เป็นต้น ส่วนช่องทางเคาน์เตอร์ตามห้างสรรพสินค้าก็ขยายต่อเนื่องตามห้างที่เปิดสาขาใหม่

สำหรับเรื่องการผลิตนั้น ปัจจุบันโรงงานผลิตสปีโดในไทยของไอ.ซี.ซี.นั้นถือเป็น 1 ใน 3 โรงงานของสปีโดทั่วโลก ที่มีอยู๋ในจีน 1 แห่ง และในเขมรซึ่งเป็นของผู้ได้ไลเซนส์จากจีนรายเดิม ซึ่งโรงงานในไทยนั้นผลิตส่งออกไปยังบริษัทสปีโดที่อเมริกา 50% และป้อนตลาดในไทย 50%

อย่างไรก็ตามในส่วนบริษัทในเครือมีการร่วมทุนกับทุนท้องถิ่นที่พม่าเพื่อตั้งโรงงานผลิตแล้ว โดยผลิตพวกเสื้อผ้าแฟชั่น แต่ยังไม่ได้ผลิตชุดว่ายน้ำสปีโด

นายชัยเลิศกล่าวด้วยว่า ประธานสหพัฒน์ให้นโยบายทั้งเครือไว้ว่า 1. เรื่องเออีซีที่จะเปิดในปี 2558 ให้ทุกบริษัทไปศึกษาตลาดที่มีศักยภาพที่แต่ละบริษัทจะออกไปรุกตลาดได้ 2. หันมาปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตเพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่าย