xs
xsm
sm
md
lg

“ส.ขอนแก่น” จ้างฮอลแลนด์ผลิต ดันข้าวขาหมูยูนนานเข้าปั๊ม-ห้าง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ส.ขอนแก่น” สบช่องตลาดต่างประเทศ หนีค่าเงินบาทผันผวน เล็งจ้างผลิตเพิ่มที่ฮอลแลนด์ มิ.ย.นี้ เดินเครื่องได้ พร้อมทุ่ม 250 -300 ล้านบาทเพิ่มกำลังการผลิตอาหารทะเล-แช่แข็งส่งนอก ส่วนตลาดเออีซีพร้อมลุย 4 ประเทศ เน้นเวียดนามเป็นหลัก บุกหนักแบบจ้างตัวแทนจำหน่ายฟากร้านยูนนาน เจาะเข้าปั๊มน้ำมันอีกร่วม 40 สาขา มั่นใจทั้งปีโต 15% ทะลุ 2,100 ล้านบาท

นายเจริญ รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ส.ขอนแก่น ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปีนี้จะมุ่งเน้นส่งออกตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มอาหารประเภท อาหารทะเลแปรรูปอย่างลูกชิ้นปลา และอาหารแช่แข็งกลุ่มขนมหวาน โดยเตรียมใช้งบกว่า 250-300 ล้านบาท สำหรับขยายกำลังการผลิตเพิ่มใน 2 ส่วนนี้

สำหรับการส่งออกไปยังประเทศเออีซีที่ปีนี้จะรุกหนักมากขึ้น ทั้งในเวียดนาม เขมร พม่า และลาว โดยเฉพาะเวียดนามถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพมากที่สุด ล่าสุดได้มีการเจรจากับผู้ผลิตรายใหญ่ในเวียดนามให้เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าให้แล้ว ซึ่งโมเดลดังกล่าวจะใช้กับประเทศอื่นๆด้วย

นอกจากนี้ ในส่วนของตลาดฝั่งยุโรป จากปัจจัยลบเกี่ยวกับการนำเข้าสินค้าบางประเภทที่ยุ่งยากโดยเฉพาะกลุ่มเนื้อสัตว์ รวมถึงปัจจัยเสี่ยงเกี่ยวกับค่าเงินบาทที่ผันผวน ทางบริษัทจะมุ่งเน้นการจ้างผลิตในประเทศนั้นๆเพื่อจำหน่ายในประเทศเหล่านั้นแทน จาก 3 ปีที่ผ่านมาจ้างผลิตหมูยอที่โปแลนด์ ล่าสุดปีนี้ได้เล็งจ้างผลิตแค็ปหมูที่ฮอลล์แลนด์เพิ่ม คาดว่าภายในเดือน มิ.ย.จะดำเนินการได้ เชื่อว่าภายในปีนี้รายได้จาก 2 ประเทศที่จ้างผลิตจะอยู่ที่ 50 ล้านบาท

นายเจริญกล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินธุรกิจภายในประเทศนั้น ในส่วนของแบรนด์ร้านอาหารในชื่อยูนนานที่ขายข้าวขาหมู ปีนี้ได้รับการติดต่อจากปั๊มบางจาก และ ปตท. รวมถึงห้างร้านค้าต่างๆ อีก 40 สาขา ขณะที่ร้านแซบ เอ็กซ์เพรส จากเดิม 6 สาขา จะเปิดเพิ่มเป็น 12 สาขา ลงทุนสาขาละไม่เกิน 5 ล้านบาท โดยปีหน้าจะมุ่งเน้นการขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์แทน

อย่างไรก็ตาม จากปัญหาต้นทุนค่าแรงเพิ่ม ทำให้บริษัทประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานกว่า 10% ดังนั้นปีนี้จึงหันมาปรับใช้เครื่องจักรในการผลิตเพิ่มขึ้น รวมถึงเพิ่มเวลาทำงานให้กับแรงงานที่มีอยู่เดิม เน้นขั้นตอนการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพมากขึ้น มุ่งผลิตสินค้าที่มีกำไรสูงเป็นหลัก เชื่อว่าทั้งปีจะมีรายได้เติบโตขึ้นกว่า 15% คิดเป็นมูลค่ากว่า 2,100 ล้านบาท โดยสัดส่วนยอดขายภายในประเทศยังอยู่ที่ 90% และต่างประเทศ 10% จากปีก่อนปิดรายได้ที่ 1,822 ล้านบาท มาจากกลุ่มสินค้าพื้นเมือง 47% กลุ่มอาหารแปรรูป 30% กลุ่มอาหารแช่แข็ง 15% และที่เหลือเป็นขนมขบเคี้ยว 8-10%
กำลังโหลดความคิดเห็น